วันที่ 19 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนระดมกำลังขุดซากปรักหักพังของบ้านเรือนในหลายหมู่บ้านชนบทห่างไกลที่พังถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีในมณฑลกานซูที่ยากจนและมณฑลชิงไห่ซึ่งติดกัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 127 ราย และเจ็บอีกหลายร้อยคน ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหยื่อท่ามกลางอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในพื้นที่สูง
ซีซีทีวีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ในมณฑลกานซูระบุว่าการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวนี้เกิดขึ้นก่อนเที่ยงคืนวันที่ 18 ธ.ค. ไม่นาน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 113 รายและบาดเจ็บกว่า 530 คน ส่วนมณฑลชิงไห่มียอดผู้เสียชีวิตอีก 14 ราย บาดเจ็บ 198 คน และยังสูญหาย 20 คน นอกจากนี้บ้านเรือนกว่า 5,000 หลังเสียหาย ชาวบ้านวิ่งหนีออกมาอยู่บนถนนแม้อากาศจะหนาวยะเยือกเพื่อความปลอดภัย ทางการท้องถิ่นส่งเจ้าหน้าที่ ดับเพลิงและกู้ภัยกว่า 1,400 นายไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ อีก 1,600 นายเป็นกำลังสำรอง พร้อมส่งเสบียงจำเป็น รวมถึงเต็นท์นอน 2,500 หลัง เสื้อคลุม 20,000 ตัว เตียงเสริม 5,000 หลัง และรัฐบาลกลางกรุงปักกิ่งอนุมัติงบประมาณ 200 ล้านหยวน หรือราว 1,000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นกองทุนบรรเทาภัยแก่ประชาชน
ด้านซินหัวระบุแผ่นดินไหวมีความรุนแรง 6.2 แม็กนิจูดและว่ารับรู้ได้ไกลถึงเมืองซีอานซึ่งห่างออกไปราว 570 กิโลเมตร และเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายสิบครั้ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตือนด้วยว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงกว่า 5.0 แม็กนิจูดในอีก 2-3 วันข้างหน้า นับเป็นแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเกิดที่มณฑลยูนนานทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 600 ราย
