กทม. – เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่สำนักเทศกิจ (สนท.) เขตธนบุรี นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร สนท. และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร สนท. หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
นายจักกพันธุ์ กล่าวในที่ประชุมว่า การจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ในการยกเลิกจุด ยุบรวมจุด ย้ายผู้ค้าเข้าไปในพื้นที่รองรับ ซึ่งอาจจะเป็นตลาดนัดเอกชน หรือ Hawker Center ศูนย์รวมร้านอาหาร
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้รายงานการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีพื้นที่ทำการค้า 95 จุด ผู้ค้า 5,233 ราย ประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าแล้ว 55 จุด ผู้ค้า 3,440 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาประกาศ 31 จุด ผู้ค้า 1,101 ราย เจ้าพนักงานจราจรไม่เห็นชอบ 9 จุด ผู้ค้า 692 ราย ส่วนพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน 544 จุด ผู้ค้า 13,210 ราย จากข้อมูล ณ วันที่ 10 ต.ค.2566 ที่ผ่านมาได้จัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า โดยยกเลิกจุด ยุบรวมจุด และย้ายเข้าพื้นที่เอกชน
ส่วนในปี 2567 จะดำเนินการยกเลิกยุบรวมจุด 110 จุด บริเวณจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย พร้อมทั้งจัดหาพื้นที่รองรับผู้ค้าในจุดที่เขตกำหนดไว้ หรือจุดทำ Hawker Center ดำเนินการแล้ว 39 จุด ใน 29 เขต รองรับผู้ค้าได้ 2,826 ราย หยุดดำเนินการ 5 จุด คงเหลือ 34 จุด และจะจัดหาสถานที่เพื่อจัดทำ ฮอว์เกอร์เซนเตอร์ เพิ่มเติมอีก 28 จุด ใน 26 เขต รองรับผู้ค้าได้ 1,500 ราย
จากนั้น ได้รายงานผลการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ผลการดำเนินการระหว่างวันที่ 9 ก.ค.61 ถึงวันที่ 18 ธ.ค.66 สำนักงานเขตจับกุม 55,553 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 4,640 ราย ดำเนินคดี 50,911 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 62,257,714 บาท ผลการดำเนินการระหว่างวันที่ 1 พ.ย.66 ถึงวันที่ 18 ธ.ค.66 สำนักงานเขตจับกุม 30 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 30 ราย ดำเนินคดี 0 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 0 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยใช้ระบบ บีเอ็มเอ เอไอ คาเมร่า ในการตรวจจับผู้กระทำผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.66 ถึงวันที่ 18 ธ.ค.66 มีผู้ฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้า 50,349 ราย ผู้ฝ่าฝืนจากกล้อง 8 ตัวที่เปิดระบบ 9,373 ราย ส่งหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำ 6,333 ราย อยู่ระหว่างจัดส่ง 3,040 ราย และเปรียบเทียบปรับ 283 ราย เป็นเงิน 225,500 บาท
