เดิมทีศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของเด็กหญิงชมพู่วัย 3 ขวบ เมื่อปลายเดือนตุลาคม แต่ต่อมาเลื่อนเป็น 20 ธันวาคม ก่อนจะถึงวันปีใหม่ไม่นานนัก จึงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า ใครกันจะโชคดีได้ของขวัญปีใหม่จากผลคดีนี้
ในที่สุด “ลุงพล” คนดังได้ของขวัญชิ้นใหญ่คือ โดนจำคุก 20 ปี!
ส่วนแม่ของน้องชมพู่ ก็ดีใจที่ลูกน้อยได้ความเป็นธรรม มีคนถูกตัดสินว่ากระทำผิดและต้องได้รับโทษ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ต้องไปต่อสู้กันอีก 2 ศาล
แต่ถ้ายึดจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น สรุปได้ว่า ลุงพล คือผู้กระทำผิดตามฟ้องในคดีนี้
โดยผิดใน 2 ข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ข้อหาอื่นยกฟ้อง!!
ตามรูปคดีที่ตำรวจนำโดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. และทีมสืบสวนนครบาล นำโดยพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รวบรวมพยานหลักฐานได้ชัด
จาก 11 พฤษภาคม 2563 ที่น้องชมพู่หายไป และพบศพ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2563
จนกระทั่ง 1 มิถุนายน 2564 หรือประมาณ 1 ปี ตำรวจจึงจับลุงพล
โดยตำรวจประมวลเหตุการณ์ได้ว่า น้องชมพู่ออกจากบ้านไปพร้อมกับคนใกล้ชิดครอบครัวที่ไว้วางใจ จึงไม่มีเสียงร้องไห้ขัดขืน
จากนั้นคนที่นำตัวน้องชมพู่ออกไป ซึ่งเป็นคนหัวเสีย ง่าย อาจโมโหอะไรบางอย่าง จึงนำเด็กไปปล่อยไว้ในป่า แต่พอย้อนกลับมารับตัวกลับไม่พบในทันที!
เชื่อว่าน้องชมพู่คงตกใจ เดินเตลิดไปในป่า จนหมดแรงเพราะไม่ได้กินข้าวกินน้ำ ซึ่งตรงกับผลชันสูตรสภาพร่างกาย บาดแผล และอาหารในกระเพาะ
จากนั้นคนที่ก่อเหตุ ตามมาพบภายหลัง จึงตัดสินใจ นำร่างไปไว้บนภูเหล็กไฟ อำพรางเป็นคดีทางเพศ
ตำรวจสรุปดำเนินคดีกับลุงพล เพราะคำให้การ มีพิรุธหลายประเด็น พิสูจน์ไม่ได้ว่าช่วงเวลาเกิดเหตุอยู่ที่ไหนกันแน่!?
ต่อมาอ้างว่ารู้เรื่องน้องชมพู่หายไป จากเมียโทร.มาบอก
ซึ่งตำรวจตรวจพบว่ามือถือเป็นแบบ 2 ซิม สลับกันใช้ ไม่สามารถใช้พร้อมกันได้
รวมทั้งหลักฐานวิทยาศาสตร์ชิ้นสำคัญ คือ เส้นผมที่โดนตัดด้วยของมีคม ซึ่งทิ้งอยู่ข้างศพน้องชมพู่ ตรงกับเส้นผมที่พบในรถลุงพล
โดยพิสูจน์ได้ว่า เป็นเส้นผมชุดเดียวกัน มีรอยตัดด้วยของ มีคม โดยรอยตัดมีองศาเท่ากัน
สรุปได้ว่า คำให้การที่มีพิรุธ หลักฐานเส้นผมข้างศพ และในรถ เป็นจุดน็อกลุงพล!!
อีกทั้งศาลก็เห็นด้วยกับพยานหลักฐานที่ตำรวจและอัยการ นำมาฟ้อง ใน 2 ประเด็นนี้
จึงเป็นจุดสิ้นสุดการรอคอยของคดีดังกว่า 3 ปี เพียงแต่ก็ยังต้องพิสูจน์กันต่ออีก 2 ศาล!
วงค์ ตาวัน
