ความคืบหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกลขณะนั้น
เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อสารมวลชน ใดอยู่ ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสส.แบบบัญชีรายชื่อ
ว่าเป็นเหตุให้สมาชิกภาพสส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3)
ขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ตามมาตรา 82 วรรคสอง
รวมทั้งขอให้มีคำสั่งให้ตำแหน่ง สส.ของผู้ถูกร้องว่างลง นับแต่วันที่อ่านคำวินิจฉัย ตามมาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2)
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นับแต่วันที่ 19 ก.ค. 66 จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นายพิธาเข้ารับการไต่สวนกรณีดังกล่าวด้วย ตัวเอง หลังจากยื่นคำชี้แจงตามขั้นตอนไปแล้วก่อนหน้านี้ ระบุว่าเป็นไปตามที่ คาดหวังไว้และมีความพึงพอใจในการไต่สวนครบทุกประการ แต่เปิดเผย รายละเอียดไม่ได้ เพราะจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
นายพิธาระบุว่ามั่นใจคดีนี้จะได้รับความเป็นธรรม คำพิพากษาที่ออกมาหวังว่าจะได้กลับไปทำหน้าที่รับใช้ประชาชน พร้อมยืนยันการถือหุ้นไอทีวีเป็นการถือในฐานะผู้จัดการมรดกเท่านั้น
นายพิธากล่าวด้วยว่าได้สละเจตนาถือหุ้นไปแล้วตั้งแต่ก่อน พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ และได้แบ่งปันมรดกกัน รายละเอียดคงตอบมากกว่านี้ไม่ได้
ด้านศาลรัฐธรรมนูญออกเอกสารข่าวว่าศาลไต่สวนพยาน รวม 3 ปาก คือ นายแสวง บุญมี,นายพิธา และนายคิมห์ สิริทวีชัย โดยตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี
คดีจึงเป็นอันเสร็จการไต่สวน นัดฟังคำวินิจฉัยแก่คู่กรณีในวันที่ 24 ม.ค.2567 เวลา 14.00 น.
เวลาอีกเดือนกว่า จึงลุ้นระทึกและน่าติดตาม!!
เภรี กุลาธรรม
