เรียน บ.ก.ข่าวสด
ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการเต็นท์รถยนต์มือสองหลายแห่ง กำลังเผชิญกับปัญหารถขายไม่ออก ต้องปรับตัวหันมาทำอาชีพเสริม เพื่อทดแทนรายได้และพยุงกิจการเต็นท์รถ ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างมีข้อเสนอที่จูงใจลูกค้า ทั้งในเรื่องของดอกเบี้ยต่ำและยังมีของแถมมากมาย สวนทางกับรถยนต์มือสอง นอกจากนี้ยังมีปัญหารถยนต์มือสองที่กำลังล้นตลาด อันเนื่องมาจากปริมาณรถยนต์ป้ายแดงที่ถูกบริษัทไฟแนนซ์ยึด แล้วนำมาขายทอดตลาดในโซนภาคตะวันตก ซึ่งมีมากเกือบ 100 คันต่อวัน เต็นท์ขายรถบางเจ้า ขายรถได้เฉลี่ยเพียง 1 – 2 คันต่อเดือน และบางเจ้าเดือนนั้นทั้งเดือนก็ยังขายรถไม่ได้เลย ในอนาคตเชื่อว่า กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาในระบบรถยนต์มือสอง ซึ่งผู้ประกอบการก็ยังคงวิตกกังวล เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์มีราคาสูงมาก หากซื้อแล้วต้องมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ นั่นหมายถึงขาดทุน ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง รวมไปถึงลูกค้าก็ยังไม่กล้าซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองอีกด้วย อนาคตของธุรกิจรถยนต์มือสองก็คงถึงทางตัน
ดังนั้นจึงขอฝากไปถึงรัฐบาลด้วยว่า อย่ามองข้ามเรื่องแบตเตอรี่ เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ความจำเป็นเรื่องแบตเตอรี่ก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน และในปัจจุบันแบตเตอรี่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีอยู่มากเช่นกัน เมื่อเสื่อมก็จะกลายเป็นขยะ ไทยควรจะมีโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งราคาแบตเตอรี่รถไฟฟ้าน่าจะมีราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้ ถ้าราคาถูกอย่างน้อยเต็นท์รถมือสองยังจะมีอาชีพในการขายรถมือสองต่อไปได้อีก
นับถือ
ถุงเงิน
ตอบ ถุงเงิน
อ่านจดหมายของคุณแล้ว อธิบายความเป็นไปของตลาดรถยนต์มือสองได้ชัดเจน นับว่าน่าเห็นใจมาก ส่วนในอนาคตเมื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ตลาดเต็นท์รถมือสองก็คงต้องปรับตัวไปตามยุคสมัย ส่วนปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าราคาสูงนั้น ล่าสุดที่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เดินทางไปเยือนญี่ปุ่น ได้เจรจาผู้บริหารพานาโซนิค ให้ขยายการลงทุนแบตเตอรี่รถไฟฟ้าในไทย หากสำเร็จคงช่วยได้มาก