ในช่วง 100 วันที่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เข้ามาบริหารประเทศ เร่งเดินเครื่องแก้ปัญหาที่หมักหมมมานาน พร้อมๆ กับขับเคลื่อนประเทศที่หยุดนิ่งมา 8-9 ปี
นโยบายหลักๆ ทยอยออกมา อาทิ การแก้หนี้นอกระบบ รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ
ต่อยอดนโยบายจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อให้ครอบคลุมประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
เนื่องจากปัญหาหนี้นอกระบบส่งผล กระทบทุกคนที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจ
โดยมีกระทรวงมหาดไทย เป็นแม่งานหลัก
สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบดูแลการเปิดลงทะเบียนลูกหนี้ เพื่อขอรับความช่วยเหลือตั้งแต่ 1 ธ.ค.2566-29 ก.พ.2567
ทั้งดูแลระบบการลงทะเบียน อำนวยความสะดวก รวมถึงคุ้มครองเรื่องความลับของข้อมูลผู้ลงทะเบียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
เตรียมความพร้อม ไกล่เกลี่ยลูกหนี้- เจ้าหนี้
Advertisement
หวังให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก ไม่ตกเป็นทาสหนี้นอกระบบ
ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ของประเทศ
จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขานรับแนวทางจากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เจ้ากระทรวง ทส.
เร่งรัดจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปี 2567 ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศ
ตั้งเป้าลดการเกิดไฟป่าพื้นที่เสี่ยง 10 ป่าอนุรักษ์ และ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ
รวมทั้งการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตร กรรมลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ
เล็งควบคุมเข้มพื้นที่ ส.ป.ก. หากพบมีการเผา จ่อยึดคืนเพราะทำผิดเงื่อนไข
ขณะเดียวกันยังมอบของขวัญปีใหม่ประชาชน ระหว่าง 29 ธ.ค.2566-1 ม.ค.2567 เข้าฟรีอุทยาน และแหล่งเที่ยวในสังกัด ทส. ทั่วประเทศ
ตั้งจุดบริการนักท่องเที่ยว เน้น “สร้างสุขให้คนไทย” จากใจ ทส.
อีกหนึ่งนโยบายหลักของรัฐบาล การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 เป็นตัวแทนฝ่ายรัฐบาลในบอร์ดไตรภาคี (รัฐบาล-นายจ้าง-ลูกจ้าง) พิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีมติยืนยันยึดตามมติเดิมเมื่อ 8 ธ.ค. ที่เสนอให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศขึ้นระหว่าง 2-16 บาทแล้วแต่จังหวัด
พร้อมไฟเขียวรื้อสูตรคำนวณใหม่ ‘เพิ่มรายอาชีพ’ เป็นการปรับสูตรในรอบ 6 ปี
ขณะเดียวกันเร่งช่วยเหลือเยียวยาแรงงานไทยที่เจอพิษสงคราม อิสราเอล- ฮามาส
ทั้งเรื่องเงินชดเชย รวมถึงการหาประเทศให้ไปทำงานแทนกลับไปอิสราเอล
สุทธิพงษ์ จุลเจริญ
ชื่อเล่น เก่ง ชาวจ.ตราด เกิด 3 ก.พ. 2507 อายุ 59 ปี
สมรสกับ วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์
สิงห์ดำ รัฐศาสตรบัณฑิต (การปกครอง) และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเดียวกัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เส้นทางนักปกครองเริ่มจากปลัดอำเภอวังเหนือ ลำปาง
เคยเป็นปลัดอำเภอฟากท่า อุตรดิตถ์, ปลัดอำเภอบางเลน นครปฐม, ปลัดอำเภอโพธาราม ราชบุรี และปลัดอำเภอบ้านแพ้ว สมุทรสาคร
เคยช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการรองปลัดกระทรวง และ ผอ.ศอ.บต. (พลากร สุวรรณรัฐ)
หัวหน้าสำนักงานรมว.มหาดไทย ตั้งแต่ยุคพล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา, อารีย์ วงศ์อารยะ, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
เป็นรองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม และรองผู้ว่าฯ นครนายก
ปี 2553 สร้างตำนานสิงห์มหาดไทยยุคนั้น ด้วยการขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ด้วยอายุเพียง 46 ปีที่นครนายก ก่อนโยกไปนั่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
ปี 2556 ผู้ว่าฯ สระบุรี ปี 2557 ผู้ว่าฯ ชัยนาท
ปี 2558 ขยับเป็นรองปลัดมหาดไทย
ต.ค. 2560 อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.)
ต.ค. 2562 อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ต.ค.2564 ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ได้แสดงความสามารถ วิสัยทัศน์นักปกครองยาว 3 ปี เกษียณอายุก.ย.2567
จตุพร บุรุษพัฒน์
เกิด 3 พ.ย. 2507 อายุ 59 ปี
รัฐศาสตรบัณฑิต (การปกครอง) รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การปกครอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เส้นทางราชการเริ่มที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โอนย้ายข้าม คลองหลอดมาอยู่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
ปี 2552 อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
นั่งเก้าอี้อธิบดีหลายกรม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมทรัพยากรน้ำ, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, และกรมควบคุมมลพิษ
ปี 2562 ผงาดปลัดกระทรวง ทส.
เกษียณอายุก.ย. 2568
ไพโรจน์ โชติกเสถียร
เกิด 21 มิ.ย. 2507 อายุ 59 ปี ชาวสงขลา
รัฐศาสตรบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ลูกหม้อกระทรวงแรงงาน ผ่านตำแหน่ง จัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี, จัดหางานจังหวัดขอนแก่น และจัดหางานจังหวัดสงขลา
ปี 2560 ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน
ปี 2562 รองอธิบดีกรมการจัดหางาน
ปี 2563 ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน
ปีเดียวกัน โยกเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน
ต.ค. 2564 อธิบดีกรมการจัดหางาน
1 ต.ค.ที่ผ่านมา ขยับขึ้นเป็น ปลัดกระทรวงแรงงาน คนที่ 13
