พลันที่เงาร่างของ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ปรากฏจากนครศรีธรรมราช พร้อมกับข้อเสนอผ่าทางตันภายในพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการเสนอ นายชวน หลีกภัย เข้ามา

หลายคนนึกถึง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี

เพราะว่า 2 คนนี้มีบทบาทเป็นอย่างสูงในการเปลี่ยนผ่านจากยุคของ นายชวน หลีกภัย เข้าสู่ยุคของ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน

หากไม่มี 2 คนนี้ร่วม “เขย่า”

ยากเป็นอย่างยิ่งที่ นายชวน หลีกภัย จะประกาศวางมือจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างชัดถ้อยชัดคำ

เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ “ต่าง” ออกไป

ในอดีต ทั้ง นายสัมพันธ์ ทองสมัคร และ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อาจมีส่วนในการก่อให้เกิดการตัดสินใจจาก นายชวน หลีกภัย

แล้วเปิดหนทางให้กับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน








Advertisement

การออกมาของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ครั้งนั้นจะรู้กันระหว่าง 2 คนนี้กับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หรือไม่

แต่ที่แน่ๆ คนของ “เสธ.” ล้วนเชียร์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน

สถานการณ์นี้ไม่ว่า นายชวน หลีกภัย ไม่ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่า นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ล้วนเข้าใจ

ณ วันนี้ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ออกโรงอีกแล้ว

ไม่มีใครตอบได้ว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ คิดอย่างไร เพราะไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครตอบได้ว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน คิดอย่างไร เพราะถึงถามก็คงไม่ตอบ

ไม่ว่าประการที่ 1 ไม่ว่าประการที่ 10

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ การออกโรงของ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร เท่ากับสะท้อนให้เห็นปัญหาอันกรุ่นคุอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์

จึงจำเป็นที่จะต้องย้อนกลับไปหา นายชวน หลีกภัย

บทสรุปของ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร จึงเหมือนกับบทสรุปของ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล เมื่อหลายปีก่อน

นายชวน หลีกภัย คือ ผู้ที่จะต้องแก้วิกฤต

เหมือนกับการเสนอตัวเข้ามา ไม่ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่ว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร หรือแม้กระทั่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม

คือ บรรยากาศ “ประชาธิปไตย” ภายในพรรค

แต่ภายในบรรยากาศอันเรียกได้ว่าเป็น “ประชาธิปไตย” ทำไมจึงต้องเพรียกหา นายชวน หลีกภัย ให้เข้ามาแก้วิกฤต

คำถามจึงพุ่งไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน