ยุทธการตั้งรับของพรรคตระกูลพลังยุทธการดีเบต
ยุทธการตั้งรับของพรรคตระกูลพลังยุทธการดีเบต : พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปัดปฏิเสธกระบวนการ ดีเบตเพื่อประชันวิสัยทัศน์ทางการเมือง พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทยก็เริ่มถอยห่าง
ทั้งถอยห่างตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งถอยห่างเพราะยิ่งเข้าสู่กระบวนการดีเบตเพื่อประชันวิสัยทัศน์ สถานะของพรรคพลังประชารัฐ สถานะของพรรครวมพลังประชาชาติไทยยิ่งเป็นฝ่ายตั้งรับ
กลายเป็น “จำเลย” ถูกรุมกระหน่ำจากรอบด้าน
ภาระในการแบกรับจึงตกอยู่บนบ่าของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอย่างเหนือความคาดหมาย
ต้องยอมรับว่าเมื่อมีหัวหน้าพรรคอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนเด่น เมื่อมีหัวหน้าพรรคอย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ประสานเข้ากับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอย่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
การเชิญหัวหน้าพรรคอย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่มาพร้อมกับการน้อมนำคำขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากำหนดทิศทางในทางการเมือง
มากด้วยสีสัน ชวนให้ติดตามอย่างเป็นพิเศษ
สีสันหนึ่งก็คือ เสียงหัวร่ออันตามมาพร้อมกับสีหน้าและดวงตาที่สำแดงความพึงพอใจในการแสดงวิสัยทัศน์ของพรรคประชาชนปฏิรูปให้เป็นที่ปรากฏ
เสียงหัวร่อดำเนินไปบนเส้นทางเดียวกันกับที่ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ตอบคำถามของพิธีกรในเรื่องของ 250 ส.ว.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอยู่ในมือ
ว่ามิได้อยู่ในประเด็น
ดำเนินไปบนเส้นทางเดียวกันกับที่คนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยยืนกระต่ายขาเดียวว่าการรัฐประหารมิได้มีความใกล้เคียงกับเผด็จการ
หรือที่คนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยว่างบประมาณกลาโหมต้องทหารเป็นคนจัดการ
เหล่านี้อาจเป็นเหตุที่ทำให้คนจากพรรคพลังประชารัฐ คนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยจำเป็นต้องขบคิดอย่างหนักหน่วงหากได้รับเชิญเข้าร่วมเวทีดีเบต
ต้องยอมรับว่าหากมองจากสภาพที่คนของพรรคพลังประชารัฐ คนของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเป็นฝ่ายตั้งรับ
กระบวนการดีเบตประชันวิสัยทัศน์มิได้เป็นเรื่องสนุก
ตรงกันข้าม สภาพการณ์ที่คนของพรรคพลังประชารัฐ คนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ประสบเกือบทุกเวที คือการตั้งรับ
จึงเห็นชอบด้วยกับบทสรุปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเต็มใจ
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง