ทิศทาง เลือกตั้ง เอา หรือไม่เอา ประยุทธ์ เอา ไม่เอา รัฐบาล
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ทิศทาง เลือกตั้ง – ยังไม่ทันที่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา จะสามารถตกลงกันได้ว่าจะให้ คนของพรรคใดลงแข่งขันในสนามเลือกตั้ง เขต 5 นครปฐม
ทีมเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ก็เดินหน้าไปแล้ว
เมื่อได้รับไฟเขียวจากพรรคเพื่อไทยว่าจะปล่อยให้พรรค อนาคตใหม่แสดงบทบาทอย่างเต็มที่ในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม
พลันสโลแกน “ทนลุงไม่ไหว เลือกอนาคตใหม่” ก็ปรากฏ
บ่งบอกอย่างเด่นชัดว่า พรรคอนาคตใหม่จะแปรสถานการณ์เลือกตั้งเขต 5 นครปฐม ให้มีลักษณะในทาง ยุทธศาสตร์เหมือนเป็น “ตัวแทน” ของทั้งประเทศ
เมื่อการเลือกตั้งที่นครปฐมเป็นเช่นนี้ แนวโน้มที่การเลือกตั้งที่ขอนแก่น การเลือกตั้งที่กำแพงเพชร ตลอดจนการเลือกตั้งที่สมุทรปราการก็แทบไม่แตกต่างกัน
นั่นก็คือ เป็นการปะทะระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน
อาจจะละเว้นสนามสมุทรปราการบ้างเพราะว่าจะต้องมีการคิดคะแนนบัญชีรายชื่ออันส่งผลสะเทือนในวงกว้าง
กระนั้น ทิศทางก็ยังเป็นระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านอยู่นั่นเอง
ความหมายจึงหมายความว่า ผลงานของรัฐบาล 5 ปี ก่อน กับอีก 2 เดือนภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม จะถูกกวาดรวมมาอยู่บนเวทีแห่งการตัดสินใจ
นั่ นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในฐานะเป็นเป้า นั่นก็คือ รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จะกลายเป็นประเด็นแห่งการถกแถลงอภิปราย
1 ระหว่างคนเห็นด้วยกับคนไม่เห็นด้วย
ถ้าเห็นด้วยกับรัฐประหาร โดยเฉพาะรัฐประหารนับแต่เมื่อเดือนกันยายน 2549 มายังเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็ให้เลือกฝ่ายรัฐบาล
1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะเป็นตัวเลือกและไม่เลือก
หากเห็นว่าการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอดเยี่ยมก็เลือกคนของรัฐบาล หากไม่เห็นว่า การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยอดเยี่ยมก็เลือกคนของฝ่ายค้าน
ยุทธศาสตร์นี้ไม่ซับซ้อน นอกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะตกลงกันให้พรรคการเมืองใดเป็นตัวแทน พรรคฝ่ายค้านร่วมก็สามารถเดินกลยุทธ์เช่นนี้เหมือนกัน
ชาวบ้านตัดสินใจไม่ยาก
เพราะผลงานและความสำเร็จของรัฐประหาร อันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีให้เห็นตั้งแต่หลังเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมากระทั่งเดือนกันยายน 2562
แจ่มชัด ตรงไปตรงมา