วิกฤตรัฐบาล
หลังสถานการณ์ฉุกเฉิน
วิกฤตประชาธิปัตย์
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
วิกฤตรัฐบาลหลังสถานการณ์ฉุกเฉินวิกฤตประชาธิปัตย์ : สถานะทางการเมืองของ นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ อยู่ในจุดอันน่าวิตก
จากความหงุดหงิดต่อกรณีขาดแคลน “หน้ากากอนามัย” ขยายไปยังกรณี “ไข่ไก่” ราคาแพง กำลังบานปลาย
กลายเป็นความไม่พอใจต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
เกิดการเปิดโปง ขุดคุ้ย โจมตี ว่ามีเบื้องหลังเนื่องแต่การสมคบกันกักตุนระหว่าง “ข้าราชการประจำ” กับ “นักการเมือง”
มีการล่ารายชื่อขับออกจาก “ตำแหน่ง”
สถานการณ์ของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จึงมีลักษณะ “บานปลาย”
บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลัง บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล
ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชา ธิปัตย์
บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งและเล่นงานกันเองภายในพรรคประชาธิปัตย์ มีการทำหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบความเป็นจริง
พรรคประชาธิปัตย์กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”
แรงสะเทือนกระทบหนักไปยัง “ภาพลักษณ์” ของพรรคประชาธิปัตย์
พรรคประชาธิปัตย์ในห้วงก่อนและภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เดินอยู่บนหนทาง 2 แพร่งที่ต้องเลือกอย่างแหลมคมยิ่ง
ผลก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออก
ลาออกเพราะมติของพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีขัดกับคำประกาศของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
การเข้าร่วมรัฐบาลจึงกลายเป็นประเด็น กลายเป็นปัญหา
พลันที่ผ่านพ้นวิกฤตการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดก็ต้องมีการคิดบัญชี
เป็นบัญชีจากการปรับครม. เป็นบัญชีที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะต้องแอ่นอกรับผิดชอบ
เป็นบัญชีโดยตรงต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์