เส้นสน ปรับครม. – บทสรุปต่อชัยชนะของ“กลุ่ม 3 ป.”ในการปรับครม.น่าศึกษา
เป็นบทสรุปที่ในที่สุด การช่วงชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประสบความล้มเหลว
เพราะในที่สุดก็ตกอยู่ในมือ นายสุพัฒน์พันธุ์ พันธุ์มีเชาวน์
แสดงให้เห็นว่า แม้ภายในพรรคพลังประชารัฐ จะผลักดันอย่างไร แต่เมื่อถึงขั้นตอนสุดท้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ตรงนี้คือรูปธรรมแห่งชัยชนะของ“กลุ่ม 3 ป.”
คําถามอันตามมาคือ เมื่อเป็นชัยชนะของ “กลุ่ม 3 ป.”แล้วใครที่พ่ายแพ้
ณ เบื้องหน้า คนที่กลายเป็นผู้แพ้อย่างหมดรูปและอย่างต่อเนื่องคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะแพ้ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ยังกรกฎาคม 2563
เนื่องจากมาดหมายกระทรวงพลังงานแต่ก็ไม่เคยได้
กระนั้น หากเห็นว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แล้วการอำลาจากกระทรวงพลังงานของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จะประเมินอย่างไร
เป็นความพ่ายแพ้เหมือนกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือไม่
ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การรุกไล่ต่อ “กลุ่ม 4 กุมาร”เป็นเรื่องอึกทึกในทางการเมือง
เป็นการรุกไล่ตั้งแต่ให้พ้นไปจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ให้พ้นไปจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค กระทั่งจำใจต้องยื่นใบลาออกจากสมาชิกภาพ แห่งพรรคพลังประชารัฐ
วันดีคืนดีก็ถูกบีบให้อำลาตำแหน่ง“รัฐมนตรี”
หากทั้งกระบวนการถือเป็นชัยชนะของ“กลุ่ม 3 ป.” ชัยชนะทั้งหมดนี้ก็อยู่บนซากปรักหักพังแห่ง ความพ่ายแพ้ของหลายคนภายในพรรคพลัง ประชารัฐ
ไม่ว่าจะชื่อ“อุตตม” ไม่ว่าจะชื่อ“สุริยะ”
ดูเหมือนจะเป็นชัยชนะของ“กลุ่ม 3 ป.”แต่ก็น่ากลัวอย่างยิ่งกับชัยชนะ
เพราะตลอด 2 รายแห่งการต่อสู้ เราเห็นบาดแผลปรากฏขึ้นกับ “กลุ่ม 4 กุมาร” เราเห็นบาดแผลปรากฏขึ้นกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
“บาดแผล” นี้น่าจะประทับอยู่อย่าง ยาวนาน