คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
สถานะ ของม็อบ ต่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา – อิทธิพลจาก “ม็อบมุ้งมิ้ง” เริ่มแผลงฤทธานุภาพออกมาให้ได้เห็นอย่างเด่นชัด
ขอถาม “ป้าสินจัย” ขอถาม “ลุงเหรียญทอง”ว่า เหตุปัจจัยอะไรทำให้ทั้งป้าและลุงต้องออกมาป่าวร้องให้คนรอบข้างออกมา “แต่งเหลือง” สำแดงพลัง
คำตอบก็คือ เสียงตะโกน “ออกไป ออกไป” ที่ดังก้อง
ไม่เพียงแต่ดังก้องในเดือนธันวาคม 2562 หากดังอย่างต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แม้ว่าจะเงียบไปเพราะโควิดหลายเดือนแต่ก็มาโผล่อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม
จากนั้นก็ยาวจากราชดำเนินถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล
ยิ่งกว่านั้น “คำขาด” อันมาพร้อมกับ “ใบลาออก” ยิ่งเหมือนหนามในหัวใจ
เพราะเมื่อประกาศในคืนของวันพุธที่ 21 ตุลาคม เส้นตาย 3 วันที่กำหนดก็จะครบในตอนค่ำของคืนวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม
คล้ายกับ “ปฏิกิริยา” จะปรากฏในวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม
แต่หากตรวจสอบจากปฏิทินทางการเมืองก็จะสัมผัสได้ว่า การประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันจันทร์ที่ 26 และวันอังคารที่ 27 ตุลาคมต่างหากคือเป้าหมาย
รัฐสภาที่เกียกกายต้องร้อนจนถึงขั้นระอุแน่นอน
คนที่หงุดหงิดมากที่สุดย่อมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช่ใคร
เพราะทั้งหลายทั้งปวงนับแต่เกิด “แฟลชม็อบ” ขึ้นในเดือนธันวาคม 2562 กระทั่งทอดยาวมายังเดือนตุลาคม 2563 เป้าหมายคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เห็นได้จากเสียงตะโกน “ออกไป ออกไป” ดังก้อง
เมื่อเป็นเช่นนี้ “คำขาด” ในคืนวันพุธที่ 21 ตุลาคม คือ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกเมื่อยังไม่ลาออกก็ย่อมจะยาวไปถึงวันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม
นี่คือโจทย์ นี่คือการบ้านสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คําถามก็คือ ม็อบยังเป็น “ม็อบมุ้งมิ้ง” ยังเป็น “ม็อบฟันน้ำนม” อยู่อีกหรือไม่
คำตอบนี้ “ป้าสินจัย” ซึ่งสวมวิญญาณแม่พลอยย่อมรู้ดีที่สุด “ลุงเหรียญทอง” ย่อมตระหนักแน่อยู่แก่ใจมาอย่างถ่องแท้ว่าเป็นเช่นใด
ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งตอบได้เด่นกว่าผู้ใด