คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
นำร่อง การเมือง – มิใช่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรอกที่พรรคเพื่อไทยจ้องมองอย่างจริงจัง
แม้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะเอาสถานะแห่งประธานนปช.ไปประกันคุณงามความยอดเยี่ยมให้กับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่
แต่ฐานของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อยู่ใน “ส่วนกลาง”
ในเมื่อพรรคเพื่อไทยโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยกขบวนไปเชียร์ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ประสานกับจดหมายน้อย นายทักษิณ ชินวัตร ก็อุ่นใจ
กระนั้น ที่หวาดเสียวอยู่ที่ “พลังลึกลับ” ของ “อำนาจรัฐ” มากกว่า
การขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เป็นการขัดแย้ง “เปิด”
ลำพังเพียงการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ก็เด่นชัด การเข้ามาสอดแทรกอยู่ข้าง นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นั้นยิ่งทำให้มีความเด่นชัดขึ้นเป็นทวีคูณ
ถามว่าความหวาดเสียวอยู่ตรงไหน
อยู่ตรงที่ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะ ไม่ต้องการให้ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ได้รับเลือกเหนือกว่า นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ต่างหาก
ถามว่าใครต้องการเห็นความพ่ายแพ้ของ นายทักษิณ ชินวัตร
เพียงยกคำถามนี้ขึ้นมาก็มองไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า 2 คนนี้ไม่เพียงแต่มีบทบาทตั้งแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 หากแต่ยังลงมือด้วยตนเองในรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
โค่น นายทักษิณ ชินวัตร โค่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
การออกโรงเชียร์ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ย่อมสร้างความคึกคักให้กับฝ่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเป็นพิเศษ
ยิ่งทำให้ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร แพ้ ยิ่งคึกคัก
ปฏิบัติการเลือกข้างของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จึงเป็นปฏิบัติการที่มีผลสะเทือน
มิใช่เพราะบารมีส่วนตัวของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ หากเป็นการเปิดช่องทางให้อีกฝ่ายทะลวงเข้าไปใน รอยแยก แตกร้าวที่เกิดขึ้นอยู่แล้วอย่างชอบธรรม
ศึกในวันที่ 20 ธันวาคม “เดิมพัน” จึงสูงยิ่งในทางการเมือง
