คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
แนวคิด ยุบพรรค – รู้ทั้งรู้ว่าปัญหาทาง “การเมือง”ในขณะนี้มี “มูลเชื้อ” มาจากปัจจัยอะไรในทางการเมือง
กระนั้น แนวคิดที่จะอาศัยกระบวนการในการ “ยุบพรรคการเมือง”มาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างฝ่ายตรงกันข้ามก็ยังเป็นแนวคิดที่ไม่ยอมสรุป ไม่ยอมเลิก
เห็นได้จากความพยายามที่จะยื่นยุบ “พรรคเพื่อไทย”
ทำราวกับไม่เคยรู้มาก่อนว่ารากฐานพรรคเพื่อไทยมาอย่างไร มิใช่เพราะไปยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 มิใช่เพราะไปยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 หรอกหรือ
ถามว่ายุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชนแล้วเป็นอย่างไร
กระบวนการยุบพรรคก็เหมือนกับกระบวนการ “รัฐประหาร”โค่นปรปักษ์ทางการเมือง
รู้ทั้งรู้ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป้าหมายใหญ่ก็เพื่อโค่นรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย ก็เพื่อทำลายรากฐานทางการเมืองของ นายทักษิณ ชินวัตร
อาจไล่ นายทักษิณ ชินวัตร ได้ ยุบพรรคไทยรักไทยได้
แต่เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็เกิดพรรคพลังประชาชน และเมื่อผ่านการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม 2550 พรรค พลังประชาชนก็ยังได้ชัยชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ
จนต้องมีการยุบพรรคพลังประชาชนเหมือนพรรคไทยรักไทย
ผลจากการยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน แล้วเป็นอย่างไร
แน่นอน นายทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถอยู่ใน ประเทศได้ แต่เมื่อมีการจัดตั้งพรรคเพื่อไทยและส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าสู่สนามการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 2554
พรรคเพื่อไทยก็ได้ชัยชนะถล่มทลายเหนือพรรคประชาธิปัตย์
หากมิใช่เพราะชัยชนะของพรรคพลังประชาชน หากมิใช่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่รัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 หรอกหรือ
เมื่อเป็นเช่นนี้ยังคิดจะยุบพรรคเพื่อไทยอีกหรือ
ยุบพรรคไทยรักไทย ก็เกิดพรรคพลังประชาชน ก็เกิดพรรคเพื่อไทยขึ้นมาได้
เช่นเดียวกับเมื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ก็เกิดพรรค ก้าวไกล ยิ่งกว่านั้น ยังเปิดทางให้ “คณะก้าวหน้า” แสดงบทบาททางการเมืองอย่างคึกคัก
เมื่อเป็นเช่นนี้ยังคิดจะยุบพรรคเพื่อไทย อีกละหรือ
