การเมือง ยอกย้อน
ซ้อนปม ในการ ปรับครม.
ปรับเล็ก ปรับใหญ่
คอลัมน์ – วิเคราะห์การเมือง
ปรับครม. – คํายืนยันล่าสุดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ การปรับครม.จะเป็นการปรับเล็ก
ความหมายโดยพื้นฐานของการปรับ “ขนาดเล็ก” ก็คือว่า จะจำกัดอยู่เพียง 3 ตำแหน่งที่ขาดหายไป คือ ในกระทรวงศึกษาธิการ ในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในกระทรวงคมนาคม
นี่ย่อมเป็นความปรารถนา นี่ย่อมเป็นความตั้งใจ
เพราะไม่ว่านายกรัฐมนตรีชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่านายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากจำเป็นต้องปรับก็จะปรับขนาดเล็กๆ
ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดต้องการปรับครม.แบบขยายวง
คําถามก็คือ จะสามารถจำกัดกรอบ ขอบเขตการปรับอยู่เพียง 3 ตำแหน่งได้หรือไม่
เหมือนกับว่าเมื่อพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนยันจะส่งรายชื่อให้นายกรัฐมนตรีเพียง 2 รายชื่อ เช่นเดียวกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะส่ง 1 รายชื่อ
หากมีเพียง 3 คนทุกอย่างก็ง่ายดายและราบรื่น
แต่คำถามก็คือ ในเมื่อการส่งชื่อ นายชัยวุฒิ ธนา คมานุสรณ์ คือตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายก รัฐมนตรี การส่งชื่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง คือตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
แล้วรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเป็นใคร รัฐมนตรีดิจิทัลฯเป็นใคร
เด่นชัดยิ่งกว่า แม้จะส่งเพียง 3 รายชื่อ แต่การปรับก็ดำเนินไปอย่างขยายวง
เพราะเมื่อ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นั่นหมายถึงโอกาสที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเดิมจะต้องย้าย
ฉับพลันทันใดก็มีข่าว นายอนุชา นาคาศัย ไปกระทรวงศึกษาธิการ
และเมื่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง นั่งเป็น “ว่าที่” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คำถามก็คือ นายอิทธิพล คุณปลื้ม จะไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน
นี่คืออาการอย่างที่เรียกว่า “โดมิโน” ในทางการเมือง
ความปรารถนาพื้นฐานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือการปรับครม.ขนาดเล็ก
แต่ความเป็นจริงในทางการเมืองไม่ยินยอมให้สามารถทำเช่นนั้นได้ อาการอ่อนระเนนเอนราบในทางการเมืองภายในการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดตามมา