คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

บทบาท การเมือง – คําประกาศ “ออกโรง”ทางการเมืองของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ มีความแหลมคม

เป็นความแหลมคมที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอย่างคึกคักและกว้างขวาง โดยเฉพาะน้ำเสียงอันดังมาจากภายในทำเนียบรัฐบาล และภายในพรรคพลังประชารัฐ

มองและประเมินอย่างผิดหวังต่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์

มองว่าเมื่อ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประกาศว่าจะพุ่งเป้าไปสู่การเปิดโปงความเลวร้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา

เท่ากับเป็นการรับงานจาก นายทักษิณ ชินวัตร

ท่าทีจากฝ่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ค่อนข้างเป็นเรื่องแปลกอย่างประหลาด

เพราะว่าต่อการเคลื่อนไหวของเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งปะทุขึ้นนับแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เรื่อยมาจนถึงเดือนมีนาคม 2564

ถูกมองว่ามี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่เบื้องหลัง

ปฏิบัติการด้านการข่าวในเครือข่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับถือเอา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นเป้าหมายในการถล่ม

แต่เมื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกโรงกลับโยนให้ “ทักษิณ”

ใครก็ตามที่ติดตามบทบาท นายจตุพร พรหมพันธุ์ มาอย่างต่อเนื่องก็สัมผัสได้

สัมผัสได้ว่า แม้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะหงุดหงิดกับการอยู่ในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ก็หงุดหงิดกับการเคลื่อนไหวของ “เยาวชน คนรุ่นใหม่” ด้วย

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่เห็นด้วยกับชูประเด็น “ปฏิรูปสถาบัน”

การประกาศจะออกมาเคลื่อนไหวโดยชูประเด็นต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือความต้องการจะแสดงให้เห็นถึงความจัดเจนของนักเคลื่อนไหวรุ่นเก๋าต้องเป็นอย่างนี้

นี่ย่อมเป็นเรื่องของ “จตุพร” ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวกับ “ทักษิณ”

ไม่ว่าวาระการเคลื่อนไหวของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และคณะจะมี “เป้าหมาย” อย่างไร

แต่ก็ต้องให้โอกาส นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในการเคลื่อนไหวว่าในที่สุดแล้วการชูประเด็นเพียง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยไม่แตะ “สถาบัน” ผลจะออกมาอย่างไร

จะเดินหน้าเข้าหา “ความสำเร็จ” หรือว่าจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน