เป้าหมายของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ต่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ คืออะไร

ไม่ว่าจะเป็นการออกโรงโดยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกโรงโดยประสานกับกลุ่มอันเป็นตัวแทนของสิ่งที่เรียกว่า “หมู่บ้านคนเสื้อแดง” สอดรับกัน

นั่นก็คือ ด้อยค่า หรือ ดิสเครดิต

เป็นการด้อยค่าหรือดิสเครดิตถึงขั้นที่ว่า ไม่มีใครให้ความเชื่อถือหรือคิดจะเดินตามข้อเรียกร้องของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แล้วกระหน่ำรุนแรงถึงขั้นว่าเป็นนักเคลื่อนไหวประเภท “สู้แล้วรวย”

ถามว่าการด้อยค่าหรือดิสเครดิตได้ผลหรือไม่

หากมองจากกระบวนการประชาสัมพันธ์ผ่านกลไกอำนาจรัฐเหมือนกับจะได้ผล

เพราะไม่เพียงแต่สื่อในเครือข่ายอำนาจรัฐจะประโคมอย่างครึกโครม หากแต่กลไกของปฏิบัติการด้านการข่าวหรือไอโอก็ประสานขานรับกันอย่างคึกคัก

แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปเหมือน “ตักน้ำรดหัวตอ”

พลันที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาเปิดโปงและโจมตีอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยเหตุและผลของนักปราศรัยระดับ “พระกาฬ”ข้อกล่าวหาทั้งหมดก็ละลายกลายเป็นศูนย์

วิญญาณ“ นักสู้” ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็เริ่ม หวนคืน

เมื่อไม่อาจบดขยี้ทำลาย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ ผลเสียจะตกกระทบถึงใคร

ด่านแรกสุดย่อมเป็นด่านอันมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ยืนทะมื่นอยู่ในฐานะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็น “หัวโขน” ใหญ่

มิหนำซ้ำ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังออกมา “ลากไส้” ซ้ำอีก

ต้องยอมรับว่า จากการต่อสู้เมื่อเดือนเมษายน 2552 ประสานเข้ากับการต่อสู้ยืดเยื้อในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ใครจะรู้จัก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ดีเท่า นายจตุพร พรหมพันธุ์

เพียงยกเพลง “กตัญญูทักษิณ” ออกมาก็ ดิ เอนด์

คําถามก็คือที่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ออกมา เจื้อยแจ้วจำนรรจาเพื่อรับใช้ใคร

คำตอบเด่นชัดยิ่งว่ากระทำเพื่อประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำเพื่อบดขยี้และ ด้อยค่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อไม่บังเกิดผลแรงสะเทือนก็แน่นอน

แน่นอนว่าย่อมตกไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน