คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ปริศนา การเมือง – หากยึดกุม “หลักการ” การประเมิน “ม็อบ” แบบเดิม การชุมนุมของ “เยาวชน” ก็ฝ่อ
เพราะความคึกคักของ “หมู่บ้านทะลุฟ้า” อย่างที่เห็นในเดือนมีนาคมก็เริ่มแผ่วลงในเดือนเมษายน ยิ่งหลังถูกสลายจาก “คฝ.” จำนวนยิ่งน้อยลง
ที่เหลือก็เพียงความห้าวและพลังที่ไม่มีวันหมด
แม้กระทั่ง การสำรวจเพื่อกำหนดวันชุมนุมของ REDEM แม้จะได้ออกมาแล้วว่าเป็นวันเสาร์ที่ 17 เมษายน แต่ในที่สุดก็แถลง “เลื่อน” โดยมิได้กำหนด
หากมองผ่าน “กระสวน” เช่นนี้ก็เด่นชัดว่า “ฝ่อลง” แน่นอน
กระนั้น เมื่อนำเอา “กระบวนการ” จากอดีตมาเปรียบเทียบกับที่เห็นในปัจจุบันก็ตรงกันข้าม
ตรงกันข้าม ในที่นี้ก็เหมือนที่นักรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สรุปเอาไว้อย่างรวบรัดว่า การเคลื่อนไหวมิได้หยุด ยังดำเนินต่อไป
เพียงแต่มีขึ้นมีลง เป็นไปตาม “สถานการณ์”
ตรงกันข้าม ในที่นี้เพราะการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ก็จบลงในวันที่ 14 ตุลาคม 2516 กินเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น
การเคลื่อนไหวของ “เสื้อแดง” อาจยาวจากเมษายนถึงพฤษภาคม 2553
ตรงกันข้าม การเคลื่อนไหวที่เริ่มจาก “เยาวชนปลดแอก” เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563
ยังต่อเนื่องจนมาถึงการเคลื่อนไหวของ “ยืน หยุด ขัง” ในเดือนเมษายน 2564 และก็ไม่มีใครตอบได้ว่าจะจบลง ณ วัน เดือน ปีใด
ทั้งองค์กร “นำ” ในการเคลื่อนไหวก็แตกแขนง
อาจเป็น “เยาวชนปลดแอก” ในเดือนกรกฎาคม แต่ก็เป็น “ประชาชนปลดแอก” ในเดือนสิงหาคมและกลายเป็น “คณะราษฎร 2563” ในเดือนตุลาคม
และ ณ วันนี้ก็เริ่มเกิด “ราษมัม” ขึ้นมาอีก
การเคลื่อนไหวทางการเมืองจึงมิได้เป็นเรื่องที่แวบมาแล้วแวบไปหากยืนระยะ
ตอนนี้ก็เริ่มเห็น “หมู่บ้านทะลุฟ้า 3” และตอนนี้ปฏิบัติการ “ยืน หยุด ขัง” ที่เห็นหน้าศาลฎีกา ใกล้สนามหลวงก็กระจายไปหน้าเรือนจำกรุงเทพฯ