คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

หอก “การเมือง” : ในที่สุด นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก” ทางการเมือง

ยิ่งล่าสุด นายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจที่รุ่นน้องนักเคลื่อนไหวทางการเมืองประสบชะตากรรม

ถูกคุมขังทั้งๆที่ยังไม่มีคำ “พิพากษา”

ชื่อของ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ก็เข้าไปแทนที่ชื่อของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชื่อของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และชื่อของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โดยสมบูรณ์

เชื่อว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็คงยังงงๆอยู่

 

ความจริง การออกโรงของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ก่อความหงุดหงิดอยู่แล้ว

เพราะว่าเป้าหมายที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมกับ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ชูขึ้นคือการแจกแจงให้เห็นความล้มเหลวของรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“กองเชียร์” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมไม่ชอบ

ยิ่งกว่านั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังไปชักชวน นายวีระ สมความคิด ยังไปชักชวน นายการุณ ไสยงาม ยังไปชวน นายไทกร พลสุวรรณ ขึ้นเวที

“เลือด”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ทะลักออกมาเป็นสายๆ

 

ขณะเดียวกัน ยิ่งเคลื่อนไหว นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ยิ่งใกล้ไปกับ “เยาวชนปลดแอก”

แม้ในเบื้องต้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ อาจไม่คุ้นกับท่วงทำนองและวิธีการของน้องๆไม่ว่า นายอานนท์ นำภา ไม่ว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ว่า นายไผ่ ดาวดิน

แต่เมื่อมองไปยัง “มวลชน” ที่ยืนอยู่หน้าเวทีปราศรัย

เด่นชัดตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของการชุมนุมเมื่อวันที่ 4 เมษายนอันเป็นวันแรกแล้วว่า เมื่อเพลงชาติกระหึ่มขึ้น มวลชนเหล่านั้นก็ “ชู 3 นิ้ว” กันขึ้นสูงเด่น

กระทั่ง วันที่ 7 เมษายน นี่คือ “กำลังหลัก” ของไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน

 

การหวนกลับมาอีกครั้งของ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ หลังวันที่ 24 เมษายนจะยิ่งชัด

ชัดว่ามวลชนด้านหลักของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นใคร แม้จะเป็น “คนเสื้อแดง” แต่ก็เป็นคนเสื้อแดงที่รับวัฒนธรรมการชุมนุมของ “เยาวชน” คนรุ่นใหม่เต็มเปี่ยม

“กองเชียร์” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะยิ่งหงุดหงิด ไม่พอใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน