คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
การจับกุม คุมขัง “รุ้ง” – สถานการณ์การติดโควิดของ “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กำลังเป็น “คำถาม”
มิได้เป็นคำถามเฉพาะปมที่ว่า “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ติดโควิดจากที่ใดแน่ ติดจากภายใน เรือนจำ หรือติดจากภายนอกเรือนจำ
เพราะทางกรมราชทัณฑ์ยืนยันมิได้ติดในเรือนจำ
ขณะที่ทาง “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ระบุว่าน่าจะติดจากภายในเรือนจำจึงมีการฟักตัวระยะหนึ่ง เมื่อไปตรวจจึงได้พบ
หากประเด็นการอยู่ในเรือนจำของ “รุ้ง” ก็เป็น “ประเด็น”
ถามว่าหาก “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ไม่ได้ส่งเข้า “เรือนจำ” จะเกิดเรื่องเช่นนี้หรือ
คำว่า “เกิดเรื่อง” มิได้มีความหมายว่าติดโควิดอย่างเดียว หากแต่เป็นความหมายว่า ข่าวการติดโควิดในเรือนจำอย่างชนิด “อภิมหา” คลัสเตอร์ จะเกิดขึ้นหรือไม่
คำถามนี้มากด้วยเงื่อนงำที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง
จะตอบคำถามนี้ได้จำเป็นต้องย้อนกลับไปว่าตัวเลขการติดโควิดเพียงในทัณฑสถานหญิงและในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่อยู่ๆ ทะยานไปถึงเกือบ 3 พันมาอย่างไร
อยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันทันใดหรือ
จากนี้จึงเด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่าตัวเลขเกือบ 3 พันเป็นตัวเลขในลักษณะ “สะสม”
เพราะมีเสียงเตือนตั้งแต่เมื่อปลายเดือนเมษายนจากบรรดา “เกจิ” ผู้ผ่านประสบการณ์ในเรือนจำมาแล้วว่า แนวโน้มการแพร่ระบาดของโควิดอาจจะเป็นเรื่องใหญ่
กระนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ก็มิได้มีการเคลื่อนไหว
แม้เมื่อมีข่าวว่า “จัสติน” ติด ประสานเข้ากับอาการร้ายแรงของ “ทนายอานนท์” ทางราชทัณฑ์ก็ยังเฉยๆ ต่อเมื่อเรื่องมาถึงตัว “รุ้ง” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นั้นหรอก
จำนวนการติด “โควิด” ในเรือนจำจึงกลายเป็น “กระแส”
ปฏิบัติการต่อบรรดา “คนรุ่นใหม่” จากรัฐบาล จึงมีผลสะเทือนค่อนข้างใหญ่กว้าง
ไม่ว่าจะเป็นผลสะเทือนที่บริเวณหน้าศาลฎีกา บริเวณหน้าศาลอาญา กำลังประสบ หากแต่ยังก่อให้เกิด การตรวจสอบเรือนจำอย่างอึกทึกครึกโครมตามมา
เพราะการส่ง “รุ้ง” ส่ง “เพนกวิน” เข้าไปอยู่ในเรือนจำแท้ๆ