คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ประสิทธิ์ เจียวก๊ก – ปรากฏการณ์ ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงในทาง “สังคม”

สัมผัสได้จากคำประกาศขอ “ยุติบทบาททางการเมือง” ของนักร้อง นักแต่งเพลงเพื่อชีวิตหัวขบวนของ “คาราบาว”

สัมผัสได้จากแถลงตะกุกตะกักจากรายการ “คนค้นฅน”

นั่นเพราะตัวตนอันแท้จริงของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ได้เปลือยออกมาอย่างล่อนจ้อนเมื่อตำรวจกองปราบปรามประกาศไล่ล่าในข้อหาหลอกต้มตุ๋นประชาชน

หน้ากาก “คนดี” จึงหลุดล่อน เหมือน“แก้ผ้า” ประจาน

บทบาทของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ถูกเปิดโปงตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม 2563

ทางหนึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกลได้อภิปรายเปิดโปงกระบวนการ “ไอโอ” ของกองทัพที่สร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน ต่อนักการเมืองและนักเคลื่อนไหว

โดยทำงานร่วมกับองค์กร “เอกชน” บางองค์กร

จากนั้น คณะก้าวหน้าได้เปิดเผยรายละเอียดลงลึกไปอีกว่า นั่นก็คือ การเข้าไปมีบทบาทของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ต่อกระบวนการ “ไอโอ” ของกองทัพ

เพียงแต่บทบาทมิได้สร้าง “สามัคคี” หากแต่สร้าง “ความแตกแยก”

ภาพของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จึงเริ่มเป็นที่กล่าวขวัญอย่างกว้างขวางใหญ่โต

กว้างขวางใหญ่โตกระทั่งรับรู้ถึงบทเพลงที่มีการแต่งสดุดีจากนักแต่งเพลงเพื่อชีวิต กว้างขวางใหญ่โตจากการออกในหลายรายการทางทีวี

ไม่ว่าจะเป็น “เจาะใจ” ไม่ว่าจะเป็น “คนค้นฅน”

แต่แล้วเมื่อปฏิบัติการของกองปราบปรามส่งผลให้ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กลายเป็นคนลวงโลก หลอกต้มตุ๋นประชาชน ทุกอย่างจึงโอละพ่อ

ที่ว่า “แทนคุณแผ่นดิน” กลับกลายเป็นตรงกันข้าม

จากนี้จึงทำให้นิยามของ “ท่านกูฐ” ที่ว่า คนต้องคนให้ทั่ว คนตั้งแต่หัวถึงตีน มีความหมาย

ไม่เพียงความหมายต่อนักร้องเพลงเพื่อชีวิต ไม่เพียงความหมายต่อนักจัดรายการคนค้นฅน หากแต่เป็นความหมายต่อเราๆ ท่านๆ ที่ติดตามบทบาทของคนในสังคม

คนต้องคนให้ทั่ว คนตั้งแต่หัวถึงตีน จึงจะเรียกว่า “คน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน