สงคราม การเมือง ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุทิน ภูมิใจไทย

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

สงคราม การเมือง – การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณสะท้อนให้เห็น “ความจริง” อะไรบ้าง

สะท้อนให้เห็นถึงความไม่นิ่ง “ภายใน” ของรัฐบาล ไม่ว่าจะมองผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองผ่าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ว่าจะมองผ่าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

ท่าทีและ “ปฏิกิริยา” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัด

การตอบโต้คำอภิปรายอันดุเดือดจากขุนพลนักพูดของพรรคฝ่ายค้านยังคงมีอยู่ แต่สภาพการณ์ใหม่คือการตอบโต้ต่อคำอภิปรายจากพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์

ท่วงทำนอง “ตัดพ้อ” และ “ต่อว่า” จึงเกิดขึ้น

นํ้าหนักแห่ง “ปฏิกิริยา” มาจากท่วงท่าและอาการของ “พรรคภูมิใจไทย” เป็นด้านหลัก

เริ่มจากการเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล “กลับบ้านเรา” อันดังก้องมาจาก นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ขุนพลจากลุ่มน้ำสะแกรกรัง อุทัยธานี

ตามมาด้วย นายภราดร นายกรวีร์ แห่งตระกูล “ปริศนานันทกุล”

สำทับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจังของ นายศุภชัย ใจสมุทร ทนายจากเมืองตรังแต่สายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับ นายเนวิน ชิดชอบ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล

น้ำเสียง นายศุภชัย ใจสมุทร ต่างหากมากด้วยความหมาย

ต้องมองบทบาทของ นายศุภชัย ใจสมุทร อย่างประจักษ์ใน “รากฐาน” ความสัมพันธ์

ต้องยอมรับว่า นายศุภชัย ใจสมุทร เคยเป็นคนของพรรคไทยรักไทยต่อเนื่องมายังพรรคพลังประชาชน และแยกตัวออกไปพร้อมกับ นายเนวิน ชิดชอบ

จึงเป็นคนหนึ่งที่ นายเนวิน ชิดชอบ ให้ความไว้วางใจ

คำพูดของ นายศุภชัย ใจสมุทร จึงมิได้ดำเนินไปในลักษณะเป็นตัวแทนให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่สำคัญยังผ่านการเห็นชอบมาจาก นายเนวิน ชิดชอบ เด่นชัด

นี่คือการสื่อโดยตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การเมืองในเดือนมิถุนายนในบรรยากาศแห่งการพิจารณาร่างพ.ร.บ. “งบประมาณ”

จึงเป็นการเมืองที่สะท้อนสายสัมพันธ์อันกำลังเป็นปัญหาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พรรคภูมิใจไทยอย่างมากด้วยความแหลมคมและร้อนแรง

ท่ามกลางสถานการณ์การต่อสู้กับ “โควิด” และเศรษฐกิจ “ขาลง”