วิเคราะห์การเมือง
สัมพันธ์ การเมือง
ระหว่าง ประยุทธ์ อนุทิน
เหมือนแก้ว ที่ร้าว
วิเคราะห์การเมือง : สัมพันธ์ การเมือง : สังคมสามารถ “ลบ” คำอภิปรายจากขุนพลนักพูดแห่งพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดอันคมคายของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดอันคมคายของ นายศุภชัย ใจสมุทร ตลอดจนของ นายภราดร ปริศนานันทกุล
ถึงอย่างไรก็ยังดำรงอยู่ใน “รายงาน” การประชุม
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากจะลืมแม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่อยากจะได้ยิน แต่เสียงจากการอภิปรายก็จะยังดำรงคงอยู่อย่างเหนียวแน่นและมั่นคง
สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของความสัมพันธ์
มีความพยายามจะหยิบเอาจำนวน 60 กว่าเสียง ที่พรรคภูมิใจไทยลงคะแนน
ความหมายก็คือ เท่ากับพรรคภูมิใจไทยยอมรับต่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ความหมายก็หมายความว่ายอมรับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เท่ากับ“คำอภิปราย”ได้หมดบทบาทลงไป
คำถามก็คือ ปัญหาที่พรรคภูมิใจไทยสะท้อนได้รับการสะสางแก้ไขหรือไม่ หากไม่ได้รับการแก้ไขทุกเนื้อถ้อยกระทงความก็ยังเป็นความจริงอยู่อย่างมั่นคง
แม้แต่คนของพรรคภูมิใจไทยก็จะยังมีปัญหาค้างคาอยู่
ในความเป็นจริง สายสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยได้เกิดรอย“ร้าว”แล้ว
ที่มีการสรุปตั้งแต่ยุคโรมันมาแล้วว่า ก่อนพูดเราเป็นเจ้าของคำพูด แต่ภายหลังจากเปล่งคำพูดออกไปแล้ว คำพูดนั่นแหละจะเป็น“เจ้านาย”เหนือเราซึ่งเป็นคนพูด
ยังเป็นความจริงอยู่สำหรับกรณีของพรรคภูมิใจไทย
เนื่องจากทุกคำพูดไม่ว่าจะจาก นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ไม่ว่าจะจาก นายศุภชัย ใจสมุทร ได้สะท้อนและยืนยันปัญหาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
ตั้งแต่ “วอล์ก อิน” กระทั่ง “หมอพร้อม”ครบถ้วน
การดำรงอยู่ร่วมกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพรรคภูมิใจไทยจึงไม่เหมือนเดิม
ยิ่งการเปิดเกมฉีด“วัคซีน”นับตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ออกมาอย่างไม่เป็นอย่างที่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล คุยโวเอาไว้
รอย “ร้าว” ที่มีอยู่ก็จะยิ่งร้าว “ลึก”