คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

อาการ การเมือง – ในที่สุด ปฏิกิริยาจากพรรคภูมิใจไทย ก็หวนกลับมาแสดง “บทบาท” อีกครั้ง

ต้องยอมรับว่า หนังสือจาก “แอสตร้าเซนเนก้า” แห่งสหราชอาณาจักรมีผลสะเทือนอย่างล้ำลึกทั้ง ต่อรัฐบาลไทย และต่อกระทรวงสาธารณสุข

มิเช่นนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ต้องตกเป็น “เป้านิ่ง”

บทบาทอย่างทรงความหมายของ “ปฏิกิริยา” ยาวเหยียดจากการโพสต์ของ นายศุภชัย ใจสมุทร ก็คือบทบาทในการเบี่ยงเบน “เป้าหมาย” ทางการเมืองออกไป

เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิใช่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ปฏิบัติการของ นายศุภชัย ใจสมุทร มิได้เป็นปฏิบัติการอย่างเป็น “เอกเทศ”

ตรงกันข้าม เป็นปฏิบัติการอย่างเดียวกันกับที่ ได้กระทำในห้วงแห่งการชี้แจงบทบาทของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นั่นคือ เป็นการปฏิบัติไปตาม “มติ” ของพรรคภูมิใจไทย

นั่นหมายความว่า มิได้ได้รับฉันทานุมัติจากคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น หากแต่ยังได้รับความเชื่อมั่นจาก “หัวหน้าพรรค” ตัวจริงอีกด้วย

บาทก้าวนี้จึงสำคัญยิ่งในทางการเมือง

ความหมายของปฏิบัติการก็คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ยอม “ตายเดี่ยว”

เบื้องต้นจึงต้องออกมาปฏิเสธว่า สถานะของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขถูกยึดไปแล้วโดยสิ้นเชิง

ตอนแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ตอนหลังเมื่อ เดือนเมษายน 2564

ไม่ว่าจะในเรื่องของการต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด” ไม่ว่าจะในเรื่องของการจัดหาและเตรียมการในเรื่องของ “วัคซีน”

อำนาจไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เบ็ดเสร็จ

จังหวะก้าวของพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ เป็นจังหวะก้าวอันแหลมคมทางการเมือง

แสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐก็ตาม

นี่คือวินาทีแห่งการเปลี่ยนผ่านในทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน