คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

หากการนัด “ดีเบต การเมือง” ระหว่าง แรมโบ้ เสกสกล กับ บอกอ ลายจุด เกิดขึ้นได้จริง

เชื่อได้เลยว่า นี่จะเป็นการดวลกันอันดุเดือด เข้มข้นที่สุด และจะมีผลชี้ขาดต่อความสำเร็จและความล้มเหลวในทางการเมืองอย่างยากจะเลี่ยงได้พ้น

เพราะ แรมโบ้ เสกสกล ก็ดุ เพราะ บอกอ ลายจุด ก็เข้มข้น

ยิ่งกว่านั้น สถานะทางการเมืองไม่ว่าจะมองไปยัง “อดีต” ไม่ว่าจะมองมายัง “ปัจจุบัน” ของทั้ง 2 ก็พอชี้ให้เห็นแนวโน้มและทิศทางใน “อนาคต” ได้

เป็นใครกันแน่ที่จะสามารถ ยืนเด่นโดยท้าทาย อยู่ได้

ต้องยอมรับว่าเส้นทางใน “อดีต” ของ แรมโบ้ เสกสกล นั้นมากด้วยสีสันเป็นอย่างสูง

เป็นสีสันที่ดุเด็ดเผ็ดมันอยู่ฝ่ายเดียวกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย และยืนอยู่ตรงกันข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์








Advertisement

มีความฝังใจอย่างเป็นพิเศษกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เพียงเปิดเทปเพลง “กตัญญูทักษิณ” ที่ร้องโดยนักร้องนาม สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ก็ทำให้ตระหนักชัดในตัวตนและความเป็น แรมโบ้ เสกสกล ครบถ้วน

จะยังขาดก็เพียงเพลง “กตัญญูประยุทธ์” เท่านั้นเอง

ในความมากด้วยสีสันของ แรมโบ้ เสกสกล มองทางด้าน บอกอ ลายจุด ก็ไม่บันเบา

เป็นความไม่บันเบาในลักษณะเสมอต้นเสมอปลายในการแสดงบทบาทของ “แกนนอน” เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ในทางการเมือง

พลิกให้กับ “คนเสื้อแดง” จากคำประกาศ “ที่นี่ มีคนตาย”

และเมื่อสังคมเข้าสู่สถานการณ์ “โควิด” บอกอ ลายจุด ก็เสนอนวัตกรรมแห่ง “คาร์ม็อบ” ขึ้นมาให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ต่อยอดเป็น “คาร์ปาร์ก”

ความแน่วแน่ เสมอต้นเสมอปลาย คือจุดนอนของ บอกอ ลายจุด

หากมองจากปัจจุบัน แรมโบ้ เสกสกล ได้เปรียบแน่ที่ยืนข้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่หากขึ้นไปบนเวที “ดีเบต” อย่างแท้จริง ท่วงทำนองของ บอกอ ลายจุด ที่ถนัดในหมัดแย็บก็อาจลดความร้อนแรงของ แรมโบ้ เสกสกล ได้ไม่น้อย

ใครเป็น “ของจริง” ใครเป็น “ของปลอม” เห็นได้ไม่ยาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน