คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เส้นทาง ต่อสู้ เพนกวิน รุ้ง ลุงนวมทอง อยู่ที่ “เป้าหมาย”
เหมือนกับการออกมาของ พริษฐ์ เพนกวิน เป็นเรื่องของปัจเจก เป็นเรื่องของเอกชน
ไม่ว่าจะเมื่อเขายังเรียนอยู่ “เตรียมอุดม” ไม่ว่าจะเมื่อเขาเข้าเรียนที่ “ธรรมศาสตร์” พริษฐ์ เพนกวิน ก็เหมือนกับ รุ้ง ปนัสยา นั่นก็คือมาคนเดียว
ถามว่าเหตุใดการออกมาของเขาจึงมากด้วย “พลัง”
ไม่เพียงแต่จะมี รุ้ง ปนัสยา ออกมายืนเคียงกับเงาร่าง หากมีคนจำนวนไม่น้อยทั้งเหนือ ใต้ ตก ออก ออกมายืนประสานเสียงร้อง “ปล่อยเพื่อนเรา” ดังกึกก้อง
นั่นก็อยู่ที่ว่า “เป้าหมาย” การต่อสู้ของเขาคืออะไร
ไม่ต่างไปจาก พริษฐ์ เพนกวิน การออกมาของลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ก็เหมือนกัน
เมื่อเผชิญเข้ากับรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ประสบการณ์ที่ผ่านพบรัฐประหารมาแล้ว หลายครั้งทำให้ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ครุ่นคิดและตัดสินใจ
ขับแท็กซี่คู่ใจออกปะทะกับ “รถถัง” ของนักรัฐประหาร
ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับบทสรุปของกะเหรี่ยง นั่นก็คือ ไข่ตกบนหินไข่แตก หินตกลงบนไข่ ไข่แตก ปฏิบัติการของ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ สร้างความสะเทือนใจ
สะเทือนใจมาถึงเดือนกันยายน 2564
ภายในกระบวนการของการต่อสู้ “เป้าหมาย” ในการต่อสู้ต่างหากที่ทรง “ความหมาย”
ไม่ว่าจะเมื่อมองไปยังกรณีของ จิตร ภูมิศักดิ์ ไม่ว่าจะเมื่อมองไปยังกรณีของ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ไม่ว่าจะเมื่อมองไปยังกรณีของ พริษฐ์ เพนกวิน
ยิ่งมองผ่าน “เยาวชนปลดแอก” มาถึง “ทะลุแก๊ส” ยิ่งเห็นชัด
จำนวนเงินบริจาคผ่าน “กองทุนราษฎรประสงค์”ที่ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนนำไปใช้ในการประกันตัวและต่อสู้ในคดีของ พริษฐ์ เพนกวิน และ รุ้ง ปนัสยา ต่างหากคือคำตอบ
นี่คือการหนุนช่วยจาก “ประชาชน” อันกว้างไพศาล ทั่วประเทศ
การดำรงอยู่ของ พริษฐ์ เพนกวิน หรือแม้กระทั่ง รุ้ง ปนัสยา มิได้โดดเดี่ยว
เพราะว่าสิ่งที่พวกเขาออกจากห้องเรียนมายืนอยู่บนท้องถนนมิได้เป็นไปเพื่อตัวเอง หากแต่มองไปยังอนาคตของประเทศ ชีวิตของประชาชน
การเสียสละของพวกเขาจึงยิ่งใหญ่ เกรียงไกร อย่างมหาศาล