คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

แผนลับ ลวงพราง ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจถึงจุด พังทลาย

หาก “ภาพ” และ “ถ้อยคำ” อันออกจากทำเนียบรัฐบาลเป็นเรื่อง “ลับ ลวง พราง”

ลับ ลวง พราง ตามท่วงทำนองของทหารก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ลับ ลวง พราง ตามท่วงทำนองของทหารก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ก็ต้องยอมรับว่า “ทหาร” เริ่มเชี่ยวชาญในทาง “การเมือง”

เพราะไม่ว่าวาจาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะไม่ว่าวาจาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนดำเนินไปภายใต้ท่วงทำนองแบบ “กัปปิยโวหาร”

ขณะที่ “รูปธรรม” ที่ออกมาเป็นการตบตี ด่าทอกัน

ถามว่ามาตรการ “ปลด” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นไปตามแผน “ลับ ลวง พราง” หรือ

ในเมื่อก่อนจะมีประกาศและมีผลในทางเป็นจริงตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน ได้ปรากฏภาพแห่งความ ขัดแย้ง การสาดน้ำร้อน น้ำเย็นเข้าใส่กันอย่างเด่นชัด

ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

แม้จะมีความพยายามเล่นบท “กาวใจ” ด้วยสองมือที่ประสานโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้มีการขอโทษกัน ณ บ้านป่ารอยต่อก่อนวันที่ 4 กันยายน

แต่เมื่อถึงวันที่ 8 กันยายนทุกอย่างก็ “เปรี้ยง” ออกมา

ต้องยอมรับว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หวานยิ่ง

เป็นความหวานและนุ่มนวลซึ่งเน้นย้ำสายสัมพันธ์อันยาวนานของ 2 พี่น้องแห่งบูรพาพยัคฆ์ ตั้งแต่คนหนึ่งเป็น “ร้อยเอก” ขณะที่คนหนึ่งเป็น “ร้อยตรี”

แต่อย่าลืมว่าคนที่เจ็บจริงคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ต้องยอมรับว่าความขัดแย้งอันปะทุขึ้นในห้วงแห่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจยังเป็นความขัดแย้งซึ่งมิได้ “แตกหัก”

ยังมี “ไมตรี” ระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เหลืออยู่

เป็นไปได้ว่า เมื่อความขัดแย้งยกระดับและพัฒนาก็ย่อมเข้าสู่พื้นที่ที่จำต้อง “แตกหัก”

การเล่นบทในแบบ “ลับ ลวง พราง” ก็ถึงจุดที่ไม่อาจประนีประนอมประโยชน์กันได้ และนั่นแหละการเผชิญหน้าก็จะเข้ามาแทนที่โดยตามมาด้วยเสียง “โพละ”

นั่นหมายถึงจุดจบระหว่าง “พี่น้อง” ใน “กลุ่ม 3 ป.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน