คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
สถานะ การเมือง ทิม พิธา และ ก้าวไกล กับ พลังประชารัฐ
บาทก้าว การเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลกำลังได้รับการจับตาติดตามใกล้ชิด
เสียงสะท้อนจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคพลังประชารัฐเป็นเสียงหนึ่ง เสียงสะท้อนจาก นายเทพไท เสนพงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์เป็นอีกเสียงหนึ่ง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยอมรับว่าถูกพรรคก้าวไกล “แซง”
นายเทพไท เสนพงศ์ แสดงความวิตกเมื่อเห็นตัวเลขการบริจาคผ่านระบบภาษีให้พรรคก้าวไกลที่มีจำนวนสูงถึง 12.6 ล้านบาทในปีภาษี 2563
ยืนยันความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ต่อพรรคก้าวไกล
การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 สะท้อนนัยยะอะไรในทางการเมือง
แรกที่พรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งและเข้าสู่พื้นที่การเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 เกจิทางการเมืองคาดหมายว่าหากได้รับเลือก 5 คนก็สามารถเข้าใจได้
เมื่อประกาศไม่มี “หัวคะแนน” ไม่มีการทุ่ม “กระสุน”
แต่เมื่อผลปรากฏออกมาว่าพรรคอนาคตใหม่ได้ถึง 80 มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย จะเป็นรองก็เพียงพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ
สายตาที่มองพรรคอนาคตใหม่จึงเปี่ยมด้วยความหวาดระแวง
จากเดือนมีนาคม 2562 มายังเดือนตุลาคม 2564 มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุลถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี
จึงได้เกิดพรรคก้าวไกลภายใต้การนำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มายังเดือนตุลาคม 2564 เป็นเวลา 1 ปีที่พรรคก้าวไกลดำรงอยู่พร้อมกับคะแนนและความนิยมทะยานสูงขึ้น
ไม่ว่าในนาม “พรรค” ไม่ว่าในนาม “หัวหน้าพรรค”
แนวโน้มและความเป็นไปได้ในทางการเมืองของพรรคก้าวไกลจึงอยู่ในจุดพิเศษ
แม้ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นรองพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ทะยานขึ้นมาหายใจรด พรรคพลังประชารัฐและทำท่าจะเกาะติดไปกับพรรคเพื่อไทย
จึงเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยโดยพื้นฐาน
