คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ทางเลือก การเมือง ของ จุรินทร์ ประชาธิปัตย์ หางเครื่อง การเมือง

การตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ต่อ “รัฐธรรมนูญ” ครั้งนี้มีความสำคัญอย่าง ใหญ่หลวง ไม่เพียงแต่จะสร้างความกังขาให้กับอดีตพรรคประชาธิปัตย์อย่าง นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นอย่างสูงในฐานะที่เป็นกำลังหลักของ “รี-โซลูชั่น” หากแม้กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็อาจหงุดหงิด เพราะการ “งดออกเสียง” โดย นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ คือคำอธิบาย 1 ขณะเดียวกัน “ปฏิกิริยา” จาก นายเทพไท เสนพงศ์ ก็เป็นเงาสะท้อน 1 นี่ย่อมเป็น “ปัญหา” ของพรรคประชาธิปัตย์ใน “อนาคต” ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ของพรรคประชาธิปัตย์ นั่นก็คือ การมีมติจากที่ประชุมกรรมการบริหารและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ให้ขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น “นายกรัฐมนตรี” แม้จะเป็นมติพร้อมกับ “เงื่อนไข” ในเรื่องแก้ไข “รัฐธรรมนูญ” กระนั้น มตินี้ก็ทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส. และทำให้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ยื่นใบลาออกจากสมาชิกภาพแห่งพรรค คำถามก็คือการตัดสินใจไม่รับ “ร่างรัฐ ธรรมนูญ” มาจากฐานคิดอะไร คําตอบ 1 อาจเป็นเพราะเห็นว่าร่างแก้ไข เพิ่มเติม “รัฐธรรมนูญ” มีลักษณะ “สุดโต่ง” เกินไป คำตอบ 1 ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือ การตัดสินใจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันเท่ากับเป็นการอนุวัติตามความต้องการของ “ส.ว.” ขณะเดียวกัน ที่ไม่ควรลืมและมองข้ามความเป็นจริงอย่างเด็ดขาดก็คือ ยอดคำเท่ซึ่งมาจากคนของพรรคพลังประชารัฐและเป็นที่ยอมรับในสังคม “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” มติของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้จึงเท่ากับเป็นการผลักดันตนเองของพรรคประชาธิปัตย์ ผลักดันให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นส่วนหนึ่งในผลประโยชน์ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพียงแต่ดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “หางเครื่อง” ในทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน