คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

คำพูด การเมือง จาก ธรรมนัส พรหมเผ่า และ “อรรถวิชช์”

ไม่ว่าคำปราศรัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าคำสัมภาษณ์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี

เด่นชัดอย่างยิ่งว่ามี “ความหมาย” และเริ่มแสดง “บทบาท” กว้างไกลมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่า “เป้าหมาย” แท้จริงจะเคยกำหนดเอาไว้อย่างไร

ก่อนพูด “เรา” เป็นนาย แต่หลังจากพูด “มัน” เป็นนาย

มันในที่นี้ก็คือ คำพูดอันออกมาจากปากของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คำพูดอันออกมาจากปาก ของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี

ถามว่ามีผลต่อ “การเลือกตั้ง” หรือไม่

ต้องยอมรับว่าคำพูดจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี มีเป้า

เป้าเฉพาะหน้าของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อาจจะอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ อาจต้องการข่มคนของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองอื่น

ผลก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ “ขยายผล” ให้ทันที

เป้าเฉพาะหน้าของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อาจต้องการวางบรรทัดฐานให้พรรคพลังประชารัฐเพื่อแสดง “กึ๋น” ที่เหนือกว่าของพรรคกล้า

ผลก็คือ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ หงุดหงิดและรับไม่ได้

ทุกอย่างดำเนินไปตามกฎของฟิสิกส์ เมื่อมีแรงกดย่อมตามมาด้วย “แรงต้าน”

แรงต้านจากพรรคประชาธิปัตย์อาจเป็น “ปฏิกิริยา” หนึ่ง แรงต้านจาก นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ อาจเป็น “ปฏิกิริยา” เฉพาะหน้าหนึ่ง

แต่ความหมายอย่างแท้จริงอยู่ที่อารมณ์ของ “สังคม”

นั่นก็คือ สังคมคล้อยตามคำพูด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือไม่ สังคมคล้อยตามความเห็น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี หรือไม่

โดยเฉพาะสังคมเขต 6 สงขลา สังคมเขต 9 กทม.

อีก 2 วันคำตอบจากสงขลาจะปรากฏ ขณะที่เขต 9 กทม.ต้องรออีก 15 วัน

คนที่ระทึกจึงมิได้มีแต่เพียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แห่งพรรคพลังประชารัฐ ยังเป็น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี แห่งพรรคกล้า

ก่อนพูด “เรา” เป็นนาย แต่หลังจากนั้น “คำพูด”เป็นนาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน