มีคำถามเกิดตามมามากในกรณี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายสกลธี ภัททิยกุล

เป็นคำถามไม่เพียงเพราะว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ทะยานจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ด้วยอำนาจแห่ง “มาตรา 44”

อีกไม่นานต่อมาก็เป็นโอกาสของ นายสกลธี ภัททิยกุล

การมาในตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.ของ นายสกลธี ภัททิยกุล อาจไม่เป็นไปตามมาตรา 44 แต่ก็เกิดขึ้นหลังการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อำนาจของบุคคลทั้ง 2 จึงเป็นอำนาจ “รัฐประหาร”

สถานะ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จึงละม้ายกับสถานะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินไปในลักษณะ 2 ขยัก ขยักที่ 1 ได้มาจากการทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ขยักที่ 2 ได้มาจากกติกาของ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560”

เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเอง วางกลไกเพื่อการสืบทอดอำนาจ ไม่เพียงแต่สืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้งปี 2562 หากแต่ยังคิดต่อไปอีกหลังปี 2566

มองไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ยิ่งเห็นได้ชัด

ถามว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ถามว่า นายสกลธี ภัททิยกุล มากด้วย “ผลงาน” เพียงใด
บางคนอุปมาว่า ผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความโอ่อ่าอลังการอย่างไร ผลงานของ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ก็มีความโอ่อ่าอลังการอย่างนั้น

เห็นได้จากคำขวัญ นายสกลธี ภัททิยกุล ที่ว่ากทม. MORE

จึงกลายเป็นว่า คำถามถึงอนาคตของกรุงเทพ มหานครจาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ต้องหาคำตอบเอาจาก นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นสำคัญ

โดยไม่แน่ว่าจะเป็น “คำตอบ” ที่ตรง “คำถาม” หรือไม่

ระยะเวลาจากเดือนเมษายนจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม จะได้ “คำตอบ” ในเรื่องผลงาน

ไม่ว่าจะมองไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไม่ว่าจะมองไปยัง นายสกลธี ภัททิยกุล ว่าชาวกรุงเทพมหานครยังต้องการให้ทำงานต่อไปหรือไม่

หรือเพียงเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน