ยิ่งใกล้ถึงวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม การต่อสู้ในสนาม “ส.ก.” ยิ่งเข้มข้น
ไม่เพียงสัมผัสได้ในความมั่นใจของพรรคเพื่อไทยที่จะก่อปรากฏการณ์ “แลนด์สไลด์” ที่คาดหมายว่าจะต้องกวาดมาเป็นเสียงส่วนใหญ่อย่างแน่นอน
หากสัมผัสได้ในการส่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลงพื้นที่
ขณะเดียวกัน ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคไทยสร้างไทย ล้วนมากด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย
เช่นนี้ ส.ก.พรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกหรือไม่
แนวทางส่งส.ก.ของพรรคก้าวไกลก็เช่นเดียวกับแนวทางส่งส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่
ด้านหลักยังเน้นคนรุ่นหนุ่มสาว แม้ว่าจะมีผู้อาวุโสเบียดแทรกเข้ามาบ้าง แต่ก็ยังเน้นอย่างหนักแน่นไปยัง “คนหน้าใหม่” ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน
จึงเป็นทั้ง “ความเสี่ยง” และ “เร้า” ความสนใจ
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่คนของพรรคก้าวไกลอยู่ในวัยหนุ่มสาว มากด้วยพลัง ตระหนักว่าตนไม่มีฐานเสียงมาก่อนจึงต้องลงพื้นที่อย่างถี่ยิบ
ตรงนี้อาจทำให้ได้รับการชายตามองจาก “โหวตเตอร์”
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้พรรคการเมืองจำเป็นต้องส่งคนลงสมัครชิงตำแหน่งส.ก.
คำตอบที่ตรงเป้าอย่างที่สุดก็คือ เพื่อรักษาฐานคะแนนเสียง “เดิม” ของตน หล่อเลี้ยงการทำงานของ “หัวคะแนน” ไม่ให้ตีตัวออกต่างหาก
เพราะเป้าหมายจริงๆ อยู่ที่การเลือกตั้งส.ส.
เมื่อนำเอาฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยสร้างไทย มาเปรียบเทียบพรรคก้าวไกลย่อมเสียเปรียบ
ทำให้ผู้สมัครส.ก.พรรคก้าวไกลถูกมองข้ามไป
ต้องยอมรับว่าสายตาที่มองการเลือกตั้งในกทม.ยังเป็นสายตาจากความจัดเจนเก่า
แม้ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 จะมีปรากฏการณ์พรรคอนาคตใหม่สร้างความตื่นตะลึง แต่เมื่อมาถึงเดือนพฤษภาคม 2565 คนก็ยังไม่เชื่อ
คำตอบในวันที่ 22 พฤษภาคมจึงสำคัญอย่างยิ่งยวด
