คะแนนของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผ่าน“โพล” ทุกสำนัก ท้าทายอย่างแหลมคมยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นโพลจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ไม่ว่าจะเป็นโพลจากสถาบันพระปกเกล้า ผลออกมาตรงกัน
นั่นก็คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อยู่อันดับ 1
ความท้าทายในที่นี้มิได้มองจากด้านของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มิได้มองจากด้านของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เท่านั้น
หากแต่อยู่ที่ตัว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วย
มองจากด้านของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เขาอยู่ในสถานะแห่งผู้ท้าชิงเด่นชัด
สรุปอย่างไม่อ้อมค้อมนั่นก็คือ เป็นการท้าชิงตำแหน่ง “ผู้ว่าฯกทม.” จาก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และรวมถึง นายสกลธี ภัททิยกุล ด้วย
เพราะคนแรกอยู่ในตำแหน่งต่อเนื่องมา 5 ปี
แต่ด้วยการวางแผนเคลื่อนไหวอย่างแยบยล ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สภาพกลายเป็นว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายสกลธี ภัททิยกุล กลายเป็นผู้ท้าชิง
ในเมื่อคะแนน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สูงเด่น
แทบไม่ต้องอธิบายว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีความโดดเด่น
นอกเหนือจากเสน่ห์ที่เร้าใจอย่างยิ่งจากบุคลิก ส่วนตัวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แล้วก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนอย่างสำคัญ
มีส่วนจากการรัฐประหารโค่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ไม่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังมีส่วนในการส่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และ นายสกลธี ภัททิยกุล เข้ามา บริหารกรุงเทพมหานคร
อันกลายเป็นโจทย์ให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บดขยี้
จําเป็นต้องคำนึงถึงคำเตือนจากความจัดเจนของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
เนื่องจากยังอยู่ในสภาพ “โค้งสุดท้าย” จนถึงวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม บรรดา “วิชามาร” จึงยังรอคอยและเตรียมในการแผลงฤทธิ์ด้วยเป้าหมายเด็ดเดี่ยว
ดึงคะแนน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้พลันวูบลง วูบลง
