ปรากฏการณ์ #10สิงหาประชาธิปไตยไปต่อ คือปรากฏการณ์ในยุค “ดิจิทัล”

เนื่องจาก “พื้นที่” ในการยึดครองมิได้เป็นพื้นที่ของ “สื่อเก่า” อันดำรงความเป็นกระแสหลักมาจากยุคแห่ง “อะนาล็อก”

หากเป็นพื้นที่ “ใหม่” และชุมชน “ใหม่”

รูปธรรมแห่งการติดเทรนด์ของ “ทวิตเตอร์” คือภาพฟ้อง ดำเนินไปเช่นเดียวกับการปรากฏขึ้นของ #ฟ้ารักพ่อ เช่นเดียวกับการปรากฏขึ้นของ#มนุษย์แข็งแกร่ง

เริ่มจาก “โซเชี่ยล มีเดีย” แล้วรุกเข้าไปในทุก “พื้นที่”

ถามว่าปรากฏการณ์ #10สิงหาประชาธิปไตยไปต่อ สะท้อน “ความจริง” อะไรในสังคม

คำตอบ 1 สะท้อนบทบาทและความหมายของ “นิสิตนักศึกษา” อันถือว่าเป็น “คนรุ่นใหม่” ในสังคมว่ายังดำรงอยู่อย่างเป็นรูปธรรม

จากเดือนตุลาคม 2516 กระทั่งเดือนพฤษภาคม 2535

เพียงแต่ “ภาพ” ของพวกเขามิได้เข้าไปยึดครองพื้นที่ของหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เหมือนในกาลอดีต หากแต่อยู่ใน “ออนไลน์”

ไม่ว่าเป็น “ภาพ” ไม่ว่าเป็น “การเคลื่อนไหว”

ความน่าสนใจอันแหลมคมยิ่งก็คือ คนรุ่นใหม่ต้องการ “ส่วนแบ่ง” ในทางความคิด

ข้อเรียกร้องของพวกเขาอันก่อรูปขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ไม่เพียงดำรงอยู่ในการเคลื่อนไหวบนท้องถนน หากแต่ต้องการเข้าไปในคูหา “เลือกตั้ง”

จึงได้มีการกดดันต่อแต่ละ “พรรคการเมือง”

จึงเด่นชัดอย่างยิ่งว่า เขาต้องการแปร “ความคิด” ของคนรุ่นใหม่ที่พวกเขายึดกุมให้เป็นโครงการในทาง “การเมือง” ที่มีการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นจริง

นี่คือ “สัญญาณ” อันแหลมคมยิ่งต่อ “การเลือกตั้ง”

หากประเมินจาก #10สิงหาประชาธิปไตยไปต่อ ก็จะประจักษ์ใน “ความต้องการ”

เพียงแต่ว่าพรรคการเมืองซึ่งอยู่ในสนามแห่งการต่อสู้มีสำนึกและมีความตระหนักมากน้อยเพียงใดต่อข้อเสนอและการผลักดันของ “คนรุ่นใหม่”

วินาทีก่อนการเลือกตั้งจึงเป็นเครื่อง “ทดสอบ” อันแหลมคม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน