คําประกาศเปิดตัว “พรรคไฟเย็น” ดำเนินไปอย่างมีลักษณะ “ประวัติศาสตร์”

เด่นชัดว่ารากฐานในทางความคิดมาจากประสบการณ์และความจัดเจนของการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563

จากประกายแห่ง “แฟลชม็อบ” ไปสู่การชุมนุมใหญ่

ที่เรียกว่ามีลักษณะ “ประวัติศาสตร์” เนื่องจากเป็นไปตามสภาพความเป็นจริงทั้งในด้านรุ่งโรจน์และในด้านอันสะท้อนลักษณะกระแสต่ำ

ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องจัดตั้งเป็น “พรรคการเมือง”

พลันที่มีการประกาศจัดตั้งของพรรคไฟเย็น ก็สร้าง “ความต่าง” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

พรรคการเมืองส่วนใหญ่เป็นพรรคที่สนองรับกับ “การเลือกตั้ง” เป็นการคิดขึ้นโดยคณะหนึ่งแล้วไปรวบรวมคนที่เห็นด้วยมาจัดตั้งเป็น “พรรค”

ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเสรีมนังคศิลา








Advertisement

ไม่ว่าจะเป็นพรรคกิจสังคม ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติสังคม ในห้วงหลังสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516

เป็น “พรรคสภา” เป็นพรรคเพื่อหวังผล “เลือกตั้ง”

 

พรรคไฟเย็นเกิดจากการเคลื่อนไหว เกิดจากปัญหาและความขัดแย้งมากมาย

เห็นความรุ่งโรจน์เป็นอย่างสูงเกือบตลอดปี 2563 และประสบกับการล้อมปราบอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2564 กระทั่งปี 2565

ประจักษ์ในฤทธิ์เดชแห่ง “นิติสงคราม” อันเข้มข้น

ในที่สุดก็ตกผลึกทางความคิดว่าจะปล่อยให้การเคลื่อนไหว “เป็นไปเอง” อย่างที่ทำมาไม่น่าจะถูกต้อง หากแต่จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองมาเป็น “คณะนำ”

 

นั่นก็คือ ยอมรับในกระบวนการของ“การจัดตั้ง”

ความแตกต่างนั่นแหละคือจุดเด่นของพรรคไฟเย็นเมื่อประกาศตัวขึ้นสู่ “สนาม”

ไม่เพียงแต่แตกต่างจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่เพียงแต่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทย หากแตกต่างแม้กระทั่งพรรคก้าวไกลอันต่อเนื่องจากพรรคอนาคตใหม่

เป็นพรรคที่ยืนระยะ “ซ้าย” สุดในทาง “ความคิด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน