ไม่ว่าต่อกรณีการยื้อ “เลือกตั้ง” ไม่ว่าต่อกรณี “นาฬิกา” หรูในแขนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่าทีจากนักการเมือง ท่าทีจากพรรคการเมืองเป็นอย่างไร
มีเพียง 3 พรรคการเมืองเท่านั้นที่แจ่มชัด
1 คือ พรรคเพื่อไทย 1 คือ พรรคประชาธิปัตย์ และ 1 คือ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ออกมาแสดงความเห็นอย่างต่อเนื่อง
เสนอแนะว่า “ป.ป.ช.” ควรทำอย่างไรต่อ “นาฬิกา”
แสดงความไม่เห็นด้วยต่อความพยายามของสนช.ที่จะ “ยื้อ” การเลือกตั้งออกไปจากเดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่าไม่สมควร
เพราะในที่สุดจะเสียกับ 1 คสช. 1 รัฐบาล
ภายในความแจ่มชัดของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ต่อกระบวนการยื้ออำนาจ ยื้อการเลือกตั้งของคสช.
พรรคการเมืองอื่นวางเฉย สงบนิ่ง
Advertisement
คำว่าพรรคการเมือง “อื่น” ในที่นี้จะไม่หมายรวมพรรคการเมืองทั้งหมดกว่า 80 พรรคการเมืองที่จดทะเบียนเอาไว้
แต่ให้ความสนใจเฉพาะบางพรรคที่เคยมี “สถานะ”
อย่างเช่น พรรคภูมิใจไทย อย่างเช่นพรรคชาติพัฒนา อย่างเช่นพรรคกระแสชลหรือแม้กระทั่งพรรคมาตุภูมิ เป็นต้น
ทำไมจึงไม่ยอมแสดงท่าทีอะไรออกมา
ความนิ่งเงียบของบางพรรคการเมือง 1 อาจเพราะบุคลากรภายในพรรคไม่ได้รับความสนใจจากสื่ออย่างเพียงพอ และ 1 คนที่มีชื่อเสียงเป็น “ซัมบอดี้” ก็ไม่อยากแสดง อะไรให้เด่นชัด
จึงกลายเป็นการไม่เคลื่อนไหวอะไร
เป็นการไม่เคลื่อนไหวในขณะที่หลายคนจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ทยอยกันออกมาแสดงความเห็นอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย
นั่นก็ขึ้นอยู่กับสายสัมพันธ์และการคาดหมายทางการเมือง
อย่าได้แปลกใจหากจะมีกระแสข่าวลือ ข่าวปล่อยออกมาในลักษณะที่บางพรรคแนบแน่นอยู่กับคสช. อาจจะกลายเป็น “นอมินี” ให้คสช. และบางพรรคก็ได้รับการเยี่ยมเยือนเป็นพิเศษ
ตรงนี้เองที่ทำให้ปากก็บ่ได้ ไอก็บ่ดัง
ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือเกิดขึ้นในเดือนใดของปี 2562 หรือเป็นปีอื่น แต่เมื่อสถานการณ์ในทางการเมืองงวดเข้า งวดเข้า
มีความจำเป็นที่นักการเมืองและพรรคการเมืองจะต้องเคลื่อน
ความนิ่งเงียบอาจเป็นประโยชน์ในสถานการณ์ 1 แต่เมื่อถึงอีกห้วงของอีกสถานการณ์ 1 สถานการณ์นั่นแหละจะบีบให้แต่ละพรรคการเมืองต้องสำแดงตัวตน
นั่นก็คือ สถานการณ์ให้จำเป็นต้องเลือกข้าง เลือกฝ่าย