เวทีขอนแก่นของ “อนาคตใหม่ ก้าวไกล” ที่ขอนแก่นกำลังได้รับการ “ประเมิน”
ไม่ว่าจะเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์
จะสร้าง “กระแส” เหมือนเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ได้หรือไม่
เมื่อพลังของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ประสานเข้ากับพลังของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
คำตอบอาจยังไม่แน่ชัด แต่ก็พอ “สัมผัส” ได้
ความน่าสนใจอย่างที่สุดอยู่ที่ “ความแน่ชัด” จากแต่ละก้าวย่างของพรรคก้าวไกล
แม้ในเบื้องต้น พรรคก้าวไกลจะเผยแพร่แนวทาง “ปิดสวิตช์ 3 ป.” อย่างเด่นชัดแต่รูปธรรมของรายละเอียดยังไม่ปรากฏ
แต่เมื่อเน้นไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ
ความละเอียดอ่อนในแนวทางและคำประกาศที่ตั้งต้นอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ขยายและยืนยันไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
แต่ละพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
ความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งสัมผัสได้ผ่านเวทีปราศรัยขอนแก่น อุดรธานี
ขอนแก่นอาจเน้นและขยายภาพของสำนวน “พรรคทหารจำแลง” แต่เมื่อถึงอุดรธานีมีความจำเป็นต้องสื่อสารไปยัง “คนเสื้อแดง”
จึงต้องเน้นบทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ทำให้คำถามอันมาจาก นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ที่ว่าหากหลังการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นพันธมิตรกับพรรคพลังประชารัฐอะไรจะเกิดขึ้น
นี่เป็นคำถามถึง “คนเสื้อแดง” ถามถึง “พรรคเพื่อไทย”
แต่ละก้าวของพรรคก้าวไกลจึงสัมพันธ์กับแต่ละก้าวย่างของพรรคเพื่อไทยใกล้ชิด
จึงเกิดคำถามต่อพรรคเพื่อไทยหนักแน่นและจริงจังมากยิ่งขึ้นว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพรรคพลังประชารัฐ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นี่ย่อมเป็น “ผลสะเทือน” จาก “พรรคก้าวไกล”
