การปล่อยภาพ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ แอฟ ทักษอร แหลมคมยิ่งทางการเมือง

ไม่ว่าจะมองจากด้านของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ว่าจะมองจากด้านของ แอฟ ทักษอร ล้วนดำเนินไปในลักษณะ “สมคบคิด”

เป้าหมาย คือ ให้ภาพเกิดภาวะ “เบี่ยง”

ยิ่งเมื่อเห็นคลิปแสดงการไหวเคลื่อนทั้งของ แอฟ ทักษอร และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากเพจของ เต้ กันตนา ยิ่งไปโลดในเชิงจินตนาการ

ก่ออาการตะลึงตึงในหมู่ IO กันถ้วนหน้า

จะเข้าใจต่อการไหวเคลื่อนนี้จำเป็นต้องมองไปยังปฏิบัติการ IO ด้านการข่าว

เป็นปฏิบัติการที่ต้องการ “ขวาง” มิให้ชัยชนะจากที่พรรคก้าวไกลได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ได้รับผลอย่างราบรื่น

ยกเอาปมแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขึ้นตีฟู

ยกเอาขวากหนามตลอดสองรายทางมิให้สามารถแย่งยื้อมือจาก 70 ส.ว.ออกมาจากกลุ่ม 250 ส.ว.มาสร้างความชอบธรรม

และที่สุด คือ แยกพรรคเพื่อไทย ออกจากพรรคก้าวไกล

ถามว่าพรรคก้าวไกล ถามว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รับรู้ในอุปสรรคนี้หรือไม่

รับรู้และพยายามบริหารจัดการกับปมแต่ละปมด้วยความฉับไวรวดเร็ว แม้กระทั่งกรณี #มีกรณ์ไม่มีกู ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

กระนั้น การตั้ง “รับ” อย่างเดียวไม่พอ จำเป็นต้อง “รุก”

การปล่อยภาพ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถ่ายภาพกับ แอฟ ทักษอร จึงปรากฏผ่านช่องทางอินสตาแกรมและขยายไปยังช่องทางอื่น

ผลก็คือ ติดอันดับ “เทรนด์” ของ “ทวิตเตอร์” อย่างรวดเร็ว

ความสนใจยังเป็นของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังเป็นของพรรคก้าวไกลเช่นเดิม

ทุกสายตาจึงไม่เพียงแต่จับตาติดตามการเดินสายของพรรคก้าวไกล ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากนนทบุรีไปยังระยองเท่านั้น

หากแต่ยังจับตา “บันทึกช่วยจำ” ด้วยความระทึก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน