ภายในการเรียกขาน นายสุทิน คลังแสง เป็น “บิ๊กทิน” ก่อให้เกิดความย้อนแย้งตามมา

หากมองจากการเข้าดำรงตำแหน่งเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” นายสุทิน คลังแสง ย่อมเข้าสู่กระบวนการเรียกนามว่า “บิ๊กทิน” ได้

เนื่องจากดำรงอยู่ในจุดอันเป็น “คอมมานเดอร์”

ในเมื่อตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” ถูกเรียกขานว่าเป็น “หมอ” เหตุใด “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” จะไม่อยู่ในฐานะ “บิ๊ก”

เพียงแต่ในน้ำเสียง “หมอ” ในน้ำเสียง “บิ๊ก” แฝงด้วยอารมณ์ขัน

เป็นอารมณ์ขันเมื่อมิได้เป็น “นายแพทย์” เป็นอารมณ์ขันเมื่อมิได้เป็นทหาร

บนเส้นทางสาย “ข่าว” อาจเรียกเสียงหัวร่อตามมา แต่บนเส้นทางของประชาคมแห่งกระทรวงสาธารณสุขจะมี “อารมณ์ร่วม” หรือไม่ยังเป็นคำถาม

ยิ่งประชาคมแห่งกระทรวงกลาโหมยิ่งมากด้วยเครื่องหมายปรัศนี

การที่บรรดาหมอจะเข้าแถวยืนแสดงความเคารพต่อ “รัฐมนตรี” อาจมิได้เป็นเรื่องแปลก แต่บรรดา “บิ๊ก บิ๊ก” ในกองทัพจะรู้สึกแปลกหรือไม่

นี่คือสิ่งที่ นายสุทิน คลังแสง ต้องประสบเมื่อเข้ากระทรวงกลาโหม

การดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ของ นายสุทิน คลังแสง จึงเหมือนมี “คลังแสง” อยู่ในตัว

การริเริ่มของพรรคเพื่อไทยจึงดำเนินไปในท่วงทำนองแบบ “ทดสอบ” หรือ “หยั่งเชิง” ในทางความคิด และในทางการเมืองที่ค่อนข้างโลดโผน

โลดโผนด้วยการส่ง “พลเรือน” เข้ากำกับ “ทหาร”

อาจเคยมีปรากฏการณ์ในลักษณะเช่นนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นปรากฏการณ์ บนฐานแห่งการควบโดยมีตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” กำกับอยู่อย่างแข็งแกร่ง

แต่ นายสุทิน คลังแสง ไม่มีตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เป็นเกราะกำบัง

กรณีการแต่งตั้ง นายสุทิน คลังแสง จึงมีทั้งเรื่อง “จริงจัง” และเรื่อง “หยั่งเชิง”

ขณะเดียวกัน การหยั่งเชิงในลักษณะเช่นนี้มีความจำเป็นเป็นอย่างสูงในการทำ “คำอธิบาย” อย่างเป็นพิเศษจากพรรคเพื่อไทย

และจาก นายสุทิน คลังแสง เอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน