การเลือกตั้ง “ซ่อม” ที่ระยองโดยภาพ คือการต่อสู้ระหว่าง “ประชาธิปัตย์” กับ “ก้าวไกล”
เห็นได้จากการอยู่ในพื้นที่ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เห็นได้จากแม้กระทั่ง นายชวน หลีกภัย ก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ที่พรรค
แต่เมื่อมองอย่างเห็น “บูรณาการ” ก็จะ “เข้าใจ”
เข้าใจว่าการต่อสู้ในเขต 3 ระยอง มิได้เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น หากแต่ยังมี “องค์ประกอบ” อื่นเข้ามา
ถามว่าเหตุอันทำให้ต้องเลือกตั้ง “ซ่อม” มาอย่างไร
คำตอบอย่างเป็นทางการคือการยื่นใบลาออกของ นายนครชัย ขุนณรงค์
กระนั้น ภายในกระบวนการลาออกก็สะท้อนถึงการเบียดขบในทางการเมืองอันแหลมคมยิ่งภายหลังการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม
ชัยชนะของพรรคก้าวไกล และการเกิดขึ้นของ 8 พรรคการเมือง
ถามว่ากรณีของ นายนครชัย ขุนณรงค์ ได้รับการเปิดออกมาจนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นและดำรงอยู่อย่างไรในทางการเมือง
เกิดขึ้นจากความขัดแย้งใน 8 พรรคการเมือง
เด่นชัดยิ่งว่าหาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ไม่ “ปล่อย” เรื่องนี้ออกมาก็ไม่อึกทึก
ตรงกันข้าม การปล่อยกรณีของ นายนครชัย ขุนณรงค์ ออกมา “มูลเชื้อ” มาจากรอยร้าวอันเกิดขึ้นภายใน 8 พรรคปีก “ประชาธิปไตย”
ต้องการให้ “ก้าวไกล” เสียสละไปเป็น “ฝ่ายค้าน”
เป็นการออกเดินอย่างเอาการเอางานโดยพรรคเสรีรวมไทยที่หงุดหงิดอย่างยิ่งกับการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำ 8 พรรคการเมือง
นั่นแหละกรณีของ นายนครชัย ขุนณรงค์ จึงปรากฏ
ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่ว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ก็หนักหนาสาหัส
เหมือนกับปฏิบัติการ “ด้อยค่า” จะมาจากพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองในพื้นที่ แต่เมื่อเสาะค้นอย่างจริงจัง
ทุกข่าวที่ “ปล่อย” ล้วนดำเนินไปในลักษณะ “สหบาทา”