เห็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง “สมัชชาคนจน” หลายคนบังเกิด “ระลึกชาติ”
ยิ่งเห็นชื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะ “รองนายกรัฐมนตรี” ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “ประธานกรรมการ” ในการแก้ไขปัญหา ยิ่งมองเห็นภาพเป็นฉาก
แน่นอน ย่อมเป็นฉากอันเกิดขึ้นในยุค “ไทยรักไทย”
เป็นภาพที่ นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่มาหลังชัยชนะในการเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 นั่งปั้นข้าวเหนียวจิ้มแจ่วร่วมกับ “สมัชชาคนจน”
หรือว่า “เพื่อไทย” จะฟื้นคืน “ไทยรักไทย” ให้หวนคืน
นามแห่ง “สมัชชาคนจน” ตีคู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองมาอย่างยาวนานยิ่ง
ยาวนานตั้งแต่ยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต่อเนื่องมายังยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และโด่งดังอย่างยิ่งยวดในยุค นายชวน หลีกภัย
โด่งดังเพราะถูกปล่อยให้ “หมา” ออกมาไล่กัด
แต่พลันที่เปลี่ยนจากรัฐบาล นายชวน หลีกภัย แห่งพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร แห่งพรรคไทยรักไทยสถานการณ์ก็พลิก
พลิกเพราะแนวทาง “ไทยรักไทย” ต่างจาก “ประชาธิปัตย์”
องค์ประกอบหนึ่งที่แวดล้อมอยู่รอบเงาร่าง นายทักษิณ ชินวัตร คือ “คนเดือนตุลา”
ไม่ว่าจะเป็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ว่าจะเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย ไม่ว่าจะเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
ยิ่ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ยิ่งชิดใกล้
ในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ตำแหน่ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คือเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรียกขานกันว่าเป็น “นายกฯ เล็ก”
ณ วันนี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ก็ยังอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม
จังหวะก้าวในการเริ่มแก้ไขปัญหาของ “สมัชชาคนจน” จึงมาจากยุค “ไทยรักไทย”
การมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีเข้าเป็นประธานกรรมการ จึงถือว่าเป็นการมอบหมายอย่างถูกคน ถูกงาน
แม้ ณ วันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน
