ทั้งๆ ที่ผ่านสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมมาแล้ว เหตุใดจึงงงต่อกรณี “ยกมือไหว้”

คนจำนวนไม่น้อยอาจตอบว่า เพราะเป็นการไหว้ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ สมาชิกแห่งครอบครัว “ชินวัตร” ย่อมเกิดความงุนงง

งุนงงใน “ความสัมพันธ์” งุนงงใน “บทบาท” ที่เปลี่ยนไป

เนื่องจากความเชื่อเดิมมองเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือคนที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย

เหตุปัจจัยอะไรทำให้ต้อง “ไหว้” กันและกัน

มองจากพื้นฐานแห่งวัฒนธรรมไทยนี่ย่อมเป็นภาพอันงดงาม ภาพอันน่ายินดี

เท่ากับเป็นการยืนยันว่าที่เคยยืนอยู่ตรงกันข้ามและห้ำหั่นทำลายกันและกันได้แปรมาเป็นฝ่ายเดียวกัน ต่างแพร “ศัสตรา” มาเป็น “แพรพรรณ”

ความจริง สถานการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมก็ชัดเจน

ชัดเจนเมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร บินมาถึงท่าเรือบิน “ดอนเมือง” ชัดเจนเมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติยกมือให้กับคนของพรรคเพื่อไทยในที่ประชุม “เกียกกาย”

นั่นคือ รูปธรรมแห่ง “รัฐบาลพิเศษ” ก้าวข้ามความขัดแย้ง

เหตุปัจจัยอะไรก่อให้เกิด “คำถาม” เหตุปัจจัยอะไรก่อให้เกิด “ความหงุดหงิด”

เป็นเหตุปัจจัยจากการยึดติดอยู่กับสถานการณ์ใน “อดีต” ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

ตรึงอยู่กับบทบาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ถามว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ถามว่าเมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติจับมือกับพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องดีหรือว่าเป็นเรื่องร้าย

คำตอบอยู่ที่มอง “สถานการณ์” อย่างไร

ไม่ว่าผลจากการไหว้จะมีรากมาจากไหน ไม่ว่าผลของการจับมือจะมีฐานคิดอย่างไร

แต่เนื่องจากสถานการณ์ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเรื่อง “ส่วนตัว” หากสัมพันธ์และยึดโยงอยู่กับกลไกแห่ง “อำนาจ” ซึ่งมากด้วยความสลับซับซ้อนและซ่อนเงื่อน

ยอมรับเถิดว่า “เส้นทาง” ที่ตามมาย่อมมากด้วย “คำถาม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน