ยิ่งนับวันการดำรงอยู่ของ แป้ง นาโหนด จะกลายเป็น “หนามยอกอก” อันแหลมคม

ไม่เพียงแต่การดำรงอยู่บน “เทือกเขาบรรทัด” ยาวนานกว่า 1 เดือน ทั้งๆ ที่มีการปิดล้อมและไล่ล่าด้วย “กำลังพล” พร้อมอาวุธครบมือหลายคน

หากแม้กระทั่ง “ปฏิบัติการ” แหกและ “หนีคุก” ยิ่งสร้างความร้าวราน

ยิ่ง แป้ง นาโหนด ปล่อย “คลิป” ทั้งภาพและเสียงออกมาชุดแล้วชุดเล่า ยิ่งเป็นการท้าทายต่อการเข้าไปรวบตัวเพื่อเผด็จศึก

คำถามก็คือ ท้าทายใคร ท้าทายอะไร

มีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจต่อ “เส้นทาง” ของ แป้ง นาโหนด อย่างจริงจัง

โดยพื้นฐานย่อมเป็นเส้นทางในการแหกและ “หนีคุก” หากไม่ได้รับการช่วยเหลือและประสานงานอย่างรอบด้านคงไม่อาจสำเร็จ

ถามว่าเป็นเรื่องของ “เรือนจำ” เป็นเรื่องของ “ราชทัณฑ์” เท่านั้นหรือ








Advertisement

ไม่หรอก เพราะหากศึกษา “เครือข่าย” และสายสัมพันธ์จะเห็นได้ว่ากระบวนการของ แป้ง นาโหนด ครอบคลุมตั้งแต่ “นักการเมือง” ไปจนถึง “ราชการ”

นี่จึงเป็นเรื่อง “อาชญากรรม” อันสัมพันธ์กับ “การเมือง”

พลันที่ แป้ง นาโหนด ปล่อยคลิปออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าก็เกิดความหวั่นไหว

หวั่นไหวตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หวั่นไหวตั้งแต่กรมราชทัณฑ์ หวั่นไหวตั้งแต่สำนักงานอัยการสูงสุด หวั่นไหวไปถึงคดีความหลายคดีความ

คำถามว่า แป้ง นาโหนด อยู่ไหน อยู่ได้อย่างไรดังกึกก้อง

สถานการณ์ของ แป้ง นาโหนด จึงยังไม่จบ ทั้งยังทำท่าจะดำเนินไปในลักษณะอันเป็นซีรีส์ ก่อให้เกิดสถานการณ์เลือดหยดตลอดสองรายทาง

ยิ้มก็มิได้ ร่ำไห้ก็ยากแค้นแสนเข็ญ

คำตอบต่อ แป้ง นาโหนด มีคำตอบเดียวเท่านั้น คือ หลบหนีอยู่ภายในประเทศ

ไม่ได้อยู่มาเลเซีย ไม่ได้อยู่พม่า ไม่ได้อยู่จีน ไม่ได้อยู่ลาว ไม่ได้อยู่กัมพูชา ทำท่าว่าจรไปในแต่ละจังหวัดของภาคใต้นั่นแหละ

หากมิใช่พัทลุง ก็เป็นตรัง หรือสงขลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน