การออกมารับถึงการพบ นายทักษิณ ชินวัตร ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สำคัญ

คำว่า “สำคัญ” ในที่นี้มิได้เริ่มต้นจากความหมายแห่งการดำรงอยู่ของ นายทักษิณ ชินวัตร และความหมายแห่งการดำรงอยู่ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เท่านั้น

หากแต่ “ประเมิน” จาก “แรงสะเทือน”

เพียง 1 สัปดาห์ภายหลังการออกมายอมรับของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ปรากฏ “ปฏิกิริยา” และสภาพที่เป็นจริงตามมามากมาย

ที่แหลมคมอย่างที่สุดคือ การก่อให้เกิด “คำถาม”

แรกที่สุดคือ คำถามที่ว่าทำไม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องออกมายอมรับ

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงนับตั้งแต่สถานการณ์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นิ่งอย่างสงบอย่างต่อเนื่อง

ไม่ยี่หระต่อข้อสังเกต ไม่สนใจต่อเสียงครหา

ไม่ว่าจะมาจากพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะมาจากหลายส่วนของมวลมหาประชาชนกปปส.ในบางพรรคการเมืองและที่เป็นสว.

แล้วเหตุใดจึงต้องออกมายอมรับกับ “กรรมกรข่าวนอกจอ”

ไม่เพียงแต่กับ “กรรมกรข่าวนอกจอ” หากยังผ่านรายการของ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์

ในรายการ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ปรากฏว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อินจัดจนต้องส่งเสียงสะอื้นออกมา และจำเป็นต้องทำ “จอดำ”

นี่เป็นอาการเดียวกับ นายชัยธวัช ตุลาธน เมื่อออกกับ WAY

สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่า นายชัยธวัช ตุลาธน ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ล้วนเป็นคน “อ่อนไหว” เมื่อประสบเข้ากับคำถามบางคำถาม

แล้วเกี่ยวอย่างไรกับการพูดถึงพรรคเพื่อไทย พูดถึงเมื่อปี 2553

จำเป็นต้องนำแต่ละจังหวะก้าวของ “ธนาธร” และของ “ชัยธวัช” มาพิจารณารวมกัน

ไม่เพียงเพราะ 2 คนนี้เคยเป็น “นักกิจกรรม” บนเวทีเดียวกัน หากแต่ยังเพราะ 2 คนนี้คือคู่แห่งความคิดก่อนพรรคอนาคตใหม่จะแจ้งเกิด

การเคลื่อนไหวของ 2 คนนี้ยึดโยงกันและกันเพียงใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน