การย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มิได้หมายถึงการจบของกรณี “หมูเถื่อน”

หากจับแต่ละคำพูดของ “รัฐมนตรี” หากจับแต่ละคำพูดของ “อธิบดี” ผู้กำลังกลายเป็น “รองปลัดกระทรวง” ก็จะเข้าใจถึงความนัยทั้งหมด

ที่สำคัญ “ดีเอสไอ” ยังคง “เดินหน้า” ต่อไป

หากไม่เข้าใจใน “กระบวนการ” ของการทำงาน หากไม่เข้าใจต่อแต่ละ “ความนัย” อันดำรงอยู่ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวก็อาจจะยังมีคำถาม

เรื่องนี้ต้องจับตา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

ถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง มีความสำคัญอย่างไรต่อสภาพการเป็น “รัฐมนตรี”

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นมือดีของ “กองปราบปราม” ย้ายจากกองปราบปรามไปดำรงตำแหน่ง “อธิบดี” กรมสอบสวนคดีพิเศษ

จากนั้น ไปอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการ “ศอ.บต.” ใน “ภาคใต้”

มีส่วนอย่างสำคัญในคณะเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์และความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทั่งกลายเป็น “ต้นทุน” สำคัญทางการเมือง

ทำให้อยู่ “พรรคประชาชาติ” ทำให้ได้เป็น “รัฐมนตรี”

หากความจำไม่สั้นเกินไปนักต้องตรึงกับบทบาทของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในสภา

ในห้วงที่เป็นฝ่ายค้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง และพรรคประชาชาติก็ร่วมกับพรรคก้าวไกลในการเกาะติด “ที่ดินเขากระโดง” อย่างอึกทึกครึกโครม

ทำให้สถานะแห่ง “ที่ดินเขากระโดง” มีความชัดเจน

ฝีมือของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ณ เบื้องหน้า “ที่ดินเขากระโดง” มีความโดดเด่นถึงเพียงนี้เมื่อเข้ามารับผิดชอบ “หมูเถื่อน” จะเป็นเช่นไรก็พอจะนึกออกได้

หากมองจากพรรคก้าวไกลก็ต้องวางใจ ก็ต้องเชื่อมั่น

กรณี “หมูเถื่อน” ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะโยงยาวไปยัง “อดีตรัฐมนตรี”

เป็นข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษค้นพบจากกระบวนการทำงาน คำถามจึงอยู่ที่ว่าอดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็น “นักการเมืองใหญ่” นั้นเป็นใคร

นี่คืองานที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จักต้องเป็นคนให้ “คำตอบ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน