อุบัติแห่ง “ลานประชาชน” ในพื้นที่ของ “สัปปายะสภาสถาน” เกียกกาย น่าสนใจอย่างยิ่ง

สัมผัสความคึกคักอันสำแดงผ่านใบหน้าและแววตาของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา แล้วก็เข้าใจ ไม่ว่าในทางความคิด ไม่ว่าในพลังที่หนุนเสริม

นี่เป็นรูปธรรมหนึ่งแห่งความเป็น “รัฐสภาโปร่งใส”

นั่นก็คือ ดึง “ประชาชน” ให้เข้ามาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของรัฐสภา ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่าง “รัฐสภา” กับ “ประชาชน” มีความแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียว

โดยอาศัยจังหวะสำคัญจาก “วันรัฐธรรมนูญ”

บทบาทและความหมายของ “ลานประชาชน” ประเมินจากรูปธรรมอย่างไร

ไม่เพียงประเมินจากการตั้งหัวข้อการเสวนาว่า “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร” หากแต่อ่านจากผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการเสวนา

1 นายนิกร จำนง 1 นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์








Advertisement

ยิ่งกว่านั้นยังมีตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ และรวมทั้ง นายชัยธวัช ตุลาธน และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคก้าวไกล

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังเป็น “องค์ประกอบ” ของงาน

เมื่อเป็นการเปิด “ลานประชาชน” ก็ต้องแสดงให้เห็นว่า “ประชาชน” คือผู้เป็นใหญ่

นั่นก็เห็นได้จากร้านค้าและอาหารที่ได้รับเชิญให้มาร่วม “ออกงาน” ด้านหลักเป็นแม่ค้า พ่อค้า ในพื้นที่โดยรอบ “สัปปายะสภาสถาน” เกียกกาย

เป็นการเชิญจาก “ตลาด” ให้เข้ามาอยู่ใน “รัฐสภา”

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไปก็จะมีวงดนตรีอย่าง “ระบัดใบ” อย่าง “พัชร์จุรี” ร่วมกันบรรเลงขับกล่อมสร้างความคึกคัก หนักแน่น

ที่พลาดไม่ได้ย่อมเป็น “วงสามัญชน”

การปรากฏขึ้นของ “วงสามัญชน” ในสัปปายะสภาสถาน ถือได้ว่าเป็นนิมิตหมายใหม่

ตามปกติแล้ว “สามัญชน” มีโอกาสเพียงบนเวทีหน้าสัปปายะสภาสถานแทบทุกครั้งที่มีการชุมนุม แต่ในวันที่ 10 ธันวาคม “สามัญชน“ จะได้ขึ้นเวทีในรัฐสภา

นี่ย่อมเป็นอานิสงส์แห่ง “รัฐธรรมนูญ” โดยแท้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน