พลันที่ทางการเยอรมนีรับเรื่องของอดีตพระพรหมเมธีขึ้นมาพิจารณา ทุกสายตาก็ทอดมองไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยความคลางแคลงใจ

นี่เป็นเรื่องที่ทาง “ตำรวจ” เองก็มิได้คาดหมายมาก่อน

เพราะหากฟังจากน้ำเสียงและท่าทีของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ก็มากด้วยความมั่นใจ

ไม่มั่นใจก็คงไม่บินไปเยอรมนี

ยิ่งหากฟังจากน้ำเสียงและท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยิ่งมากด้วยความมั่นใจ

คิดว่าเรื่องจะเรียบร้อยภายใน 3 วันตามบทสรุป

ความคลางแคลงใจในที่นี้มิได้เป็นความคลางแคลงใจในความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และโดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา

หากคลางแคลงใจในกระบวนการและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ถามว่ากระทรวงการต่างประเทศมีบทบาทแค่ไหน

เชื่อว่าความมั่นใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และโดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ย่อมมีรากฐานมาจากความเห็นจากกระทรวงการต่างประเทศ

มั่นใจว่าอดีตพระพรหมเมทีไม่สามารถดำเนินการอะไร กระทั่งเป็นที่ยอมรับในเบื้องต้นจากเยอรมนี

แต่เมื่อเผชิญกับความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

แทนที่จะคุมตัวมาได้ทันที แทนที่เมื่อต่อรองเลื่อนออกไปเป็นภายใน 3 วัน กลับต้องคว้าน้ำเหลว และอาจต้องรอเป็นเวลายาวนานถึง 3 เดือน

รายละเอียดตรงนี้ต่างหากที่จำเป็นต้องทบทวน

ในที่สุด กรณีของอดีตพระพรหมเมธีก็จะไปซ้ำรอยกับกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

1 คือการล่องหนหายตัวไปอย่างลี้ลับ

1 คือการได้วีซ่าจากสหราชอาณาจักร คือการได้วีซ่าจากสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และทุกประเทศเกือบทั่วโลกยกเว้นเพียงประเทศไทย

จะต่างก็เพียงแต่อดีตพระพรหมเมธีเป็นเรื่องของการลี้ภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน