นับแต่ตัดสินใจเปิดเพจและกระโจนเข้าสู่โลกแห่งโซเชียล มีเดียในวันที่ 13 ตุลาคม ถือได้ว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยอดเยี่ยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หากถือว่าการตัดสินใจยึดอำนาจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นความล่อแหลมในทางการเมือง
การตัดสินใจเปิด”เพจ”ก็มีความล่อแหลมระนาบเดียวกัน
เพียงแต่ว่าการตัดสินใจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นการตัดสินใจบนฐานแห่งความจัดเจนที่ทหารในกองทัพมีประสบการณ์อย่างเต็มเปี่ยม
ขณะที่โลกของ “เพจ” เป็นโลกของ “โซเชียล มีเดีย” อันถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่
เป็นโลกที่ไม่แน่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะคุ้นเคย
หากสดับตรับฟังจากการประเมินผลก่อนและหลังประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ 16 ตุลาคม ก็จะสัมผัสได้ในความแปลกใหม่อย่างเด่นชัด
หากมองผ่านปริมาณการกด”ไลค์” และยอดวิวที่ทะลุหลักแสนเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน
เพียง 2-3 วันได้”โฟลโลว์”ระดับนี้ย่อมไม่ธรรมดา
กระนั้น ภายในความนิยมชมชอบอันประเมินผ่าน”ยอดวิว”ก็ดำเนินไปในลักษณะ 2 ด้าน
“ก็มีทั้งด่า ทั้งชม”
“บอกแล้วว่าถ้าชอบผมมากๆอีกพวกก็จะออกมาด่า หรือบางพวกชมผมก็จะไปด่าคนอื่น”
นี่ย่อมเป็นเวทีอันแปลกแตกต่างออกไป
แตกต่างไปจากการสื่อสารทางเดียวบน”โพเดียม”หรือแม้กระทั่งรายการตอนค่ำวันศุกร์
เพราะโลกของออนไลน์เป็นการสื่อ 2 แนวทาง
ที่ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความกล้าและวีระอาจหาญ เพราะโลกของโซเชียลมีเดีย เน้นในความเสมอภาคและเท่าเทียม
เปี่ยมด้วยลักษณะ “ประชาธิปไตย”
หากการเปิดเพจคือการตระเตรียมไปสู่สนามที่เป็นจริงในทางการเมืองถือได้ว่าเหมาะสมอย่างที่สุด
เพราะโลกหลัง”เลือกตั้ง”ก็จะเหมือนโลก”ออนไลน์”