อาการพับเพียบอย่างเรียบร้อยของหลายคนใน “กลุ่มสามมิตร” กำลังถูกจับตามองด้วยความสงสัย
ไม่ว่าจะระดับ “หัวแถว”
ทั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เงียบ
ยิ่ง นายภิรมย์ พลวิเศษ ยิ่งอยู่ในลักษณะ “มิดอิมซิม”
ความน่าสงสัยอยู่ตรงที่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ว่า นายภิรมย์ พลวิเศษ ล้วนเคลื่อนไหวสร้างปรากฏการณ์
“สามมิตรสัญจร”อย่างคึกคัก
แต่ภายหลังจากสถานการณ์ ณ เมืองทองอารีนา เมื่อวันที่ 29 กันยายน กลับอยู่ในสภาพเหมือนกับ”จรเข้กบดาน”
ไม่มีเสียงคำรามจาก”โคล้านตัว”แม้แต่น้อย
Advertisement
เช่นนี้เองจึงมีคำถามกับอย่างชนิด”ถามตรง”ไปยังเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเมื่อไปปรากฎเงาร่างที่นครปฐมอย่างไม่อ้อมค้อม
“มีกระแสข่าวผู้ใหญ่ในพรรคไม่อยากให้สามมิตรเข้าร่วม”
ความหมายของ “ผู้ใหญ่ในพรรค”ย่อมมิได้หมายถึงหัวหน้า พรรครองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค อันเรียกขาน กันว่า “4 รัฐมนตรี”
หากครอบคลุม “เหนือกว่า” และ”ใหญ่กว่า”นั้น
ความเงียบอันเกิดขึ้นกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือแม้กระทั่งคนช่างจำนรรจาอย่าง นายภิรมย์ พลวิเศษ จึงกลายเป็นปริศนาในทางการเมือง
เพราะก่อนวันที่ 29 กันยายน บทบาทของ”กลุ่มสามมิตร” คึกคักอย่างยิ่ง
ไม่ว่าที่รีสอร์ทดังจังหวัดเลย ไม่ว่าที่สนามกอล์ฟดังจังหวัดปทุมธานี
หรือว่าเพราะ”ล็อก”ยังไม่ตายตัว แน่นอน
ปรากฏการณ์หลังวันที่ 29 กันยายน มาพร้อมกับความเคลื่อนไหว ที่แตกต่างระหว่าง 2 แนวทาง
แนวทาง 1 คือ แนวทาง 4 รัฐมนตรี
แนวทาง 1 คือ แนวทาง”กลุ่มสามมิตร”ซึ่งไม่เพียงแต่จะกลายเป็นกระแสรอง หากแต่ทำท่าว่าอาจจะตก “กระแส”ไปอย่างสิ้นเชิง
หรือนี่เป็นการต่อสู้อย่างนิ่มนวลภายใน”พลังประชารัฐ”
