ช่วงไม่สบายใจ

ช่วงไม่สบายใจ – แม้ว่าตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ระบุถึงสถานการณ์ราคาข้าวที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคา 16,000-17,000 บาทต่อตัน แต่ภาพของเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่แจ่มใสนัก โดยเฉพาะประเด็นการกระจายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไปไม่ถึงรากหญ้า

ตัวเลขล่าสุดจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของ ผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2561 โดยศูนย์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง

อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ปรับตัวลดลงทุกรายการ จากเมื่อเดือนกันยายน

แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสใน การหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก

ศูนย์เศรษฐกิจแจงเหตุผลที่ผู้บริโภคหวั่นไหวต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อในปัจจุบันชะลอตัวลง และความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวลดลง ว่ามาจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการยังมีราคาต่ำ นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดน้อยลง และสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น

ด้วยปัจจัยทั้งในและนอกประเทศเหล่านี้จึง ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนสูง

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคต ระยะ 6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

เมื่อพิจารณารวมกับตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อ ของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุตัวเลขเดือนตุลาคม 2561 ว่า อัตราเงินเฟ้อขยายตัวสูงขึ้น 1.23% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16

อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.15% จากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน อาหาร และเครื่องดื่มเป็นสำคัญ

บ่งบอกว่าการใช้จ่ายของประชาชนในเวลานี้อยู่ในช่วงที่ไม่สบายใจนัก

ความหวังยังคงไปฝากไว้ที่การเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน